日本遺産ตะวันตกดินในดินแดนศักสิทธิ์อิซูโมะ
- มรดกญี่ปุ่น

ชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรชิมาเนะเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นแหล่งกำเนิดตำนานต่างๆในอิซูโมะ ชายทะเลอินาซะและแหลมฮิโนมิซากิซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามนั้นตั้งอยู่ในชายฝั่งแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ที่แห่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักเทียบเท่าอาเมะโนะฮิซุมิโนะมิยะ (ศาลเจ้าใหญ่อิซูโมะไทฉะ) และฮิชิซุมิโนะมิยะ (ศาลเจ้าฮิโนะมิซากิ)

ในสมัยโบาณ อิซูโมะเคยเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ที่พระอาทิตย์ตกดิน ผู้คนในอิซูโมะศรัทธาในพระอาทิตย์ตกดินและสวดขอพร วัฒนธรรมการเฉลิมฉลองพระอาทตย์ตกดินนั้นถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่น

มรดกญี่ปุ่น:
เรื่องเล่าทั้งสี่ของเมืองอิซูโมะ

  • เดอะซันเซ็ทในที่ดินศักดิ์สิทธิ์ของ งอิซุโมะ

    ชายฝั่งที่ถูกสร้างโดยเทพเจ้า

    ในอิซูโมะ หากคุณมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน คุณจะเพลิดเพลินกับแสงของพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามส่องมายังตัวเมือง วิวทิวทัศน์นี้ไม่เคยเปลี่ยนไปตั้งแต่สมัยก่อน

    ให้เรานำทางคุณไปยังดินแดนศักสิทธิ์และพระอาทิต์ตก 1300 ปีก่อนในช่วงยุคนารา (ค.ศ.710-794) หนังสือบันทึกสภาพอากาศอิซูโมะโนะคุริฟุโดคิได้ถูกเขียนขึ้น หนังสือเล่มนี้บันทึกสภาพอากาศและวิถีชีวิตของผู้คนในอิซูโมะไว้ ตำนานเกี่ยวกับบันทึกเล่มนี้ข้อแรกคือตำนานคุนิบิกิ(เรื่องเล่าดึงเกาะสู่แผ่นดิน) เมื่อเทพเจ้ายักษ์ยาสึคามิซูโอมิซุนุต้องการขยายดินแดนอิซูโมะและดึงดินแดนอื่นข้ามทะเลโดยใช้เชือกยักษ์ดึงลางพูดว่า “ดินแดนเอ๋ยจงมา” ดินแดนใหม่เหล่านั้นถูกเรียกว่าเป็นภูเขาทิศเหนือของอิซูโมะ และเชือกยักษ์ได้กลายเป็นชายหาดล้อมรอบดินแดนตะวันตกของอิซูโมะ

    ชายฝั่งรูปคันศรนั้นเป็นชายหาดสีขาวที่สวยงาม แต่ถ้าคุณเดินทางไปยังทิศเหนือ ที่เชิงเขาวิวที่คุณเห็นจากชายหาดจะเปลี่ยนเป็นหิน บางคนเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้ถูกดึงดูดมาด้วยพลังของเทพเจ้าจริงๆ ชายหาดอินาซาโนะและฮิโนมิซากิ จุดชมวิวเหล่านี้ยังคงเป็นที่นิยมอย่างมาก ที่แห่งนี้สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าไปยังมหาสมุทรญี่ปุ่น

  • ซันเซ็ทของ Inasa ไม่มีหาด Hama และ“เอมไม่มี Hisumi ไม่มี Miya (ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะแกรนด์ศาลเจ้า)”

    พระอาทิตย์ตกดิน ณ แหลมฮิโนมิซากิ และฮิชิซุมิโนะมิยะ(ศาลเจ้าฮิโนมิซากิ)

    แหลมฮิโนซากิยื่นออกจากทะเลญี่ปุ่น มันเป็นที่รู้จักจากชายหาดที่ขรุขระและก้อนหินที่เรียงกันเป็นลวดลายแปลกตา ชื่อของแหลมฮิโนซากิหรือแหลมแห่งพระอาทิตย์นั้นประกอบด้วยตัวอักษรจีนคำว่าพระอาทิตย์และแหลมฮิโนซากิยังรู้จักว่าเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระอาทิตย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ในยุคสมัยเมจิ(1868-1912) ได้มีการสร้างประภาคารขึ้นชื่อว่าอิซูโมะฮิโนมิซากิและประภาคารสีขาวแห่งนั้นก็ยังคงอยู่ให้วิวทิวทัศน์ที่งดงามแก่พวกเราจนถึงวันนี้ ถ้าคุณได้ไปที่ฮิโนมิซากิ คุณจะเห็นวิวพระอาทิตยย์ตกสีแดงผ่านชาดหาดขรุขระลงหลังประภาคารแห่งนี้ ช่างเป็นทิวทัศน์ที่งดงามมาก

    อีกสถานที่หนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงคือศาลเจ้าฮิโนมิซากิที่ถูกทาสีด้วยสีแสดซึ่งเป็นศาลเจ้าแบบที่หาได้ยากในอิซูโมะ ในที่แห่งนี้เทพเจ้าซูซาโนโอะ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าสถิตอยู่ ซึ่งก็คือเทพเจ้าผู้ควบคุมทะเลที่ถูกเคารพนับถือที่ศาลเจ้าคามิโนะมิยะ(ศาลเจ้าฝั่งบน)และเทพเจ้าอามาเทราสึ เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์ที่ได้รับการศักการะใน ฮิชิซึมิโนมิยะ(ศาลเจ้าแห่งพระอาทิตย์ตกดิน หรือศาลเจ้าฝั่งล่าง) โดยทั่วไปศาลเจ้าอามาเทราสึนั้นเป็นจะสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ขึ้นแต่ที่อิซูโมะกลับเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ตก

    ศาลเจ้าสึคิโยมิตั้งอยู่ในป่าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของของศาลเจ้าฮิโนซากิ เทพเจ้าที่สถิตในศาลเจ้านี้คือเทพเจ้าสึคิโยมิซึ่งจะตรงข้ามกับอามาเทราสึซึ่งเเป็นเทพเจ้าแห่งเวลากลางคืน เทพเจ้าสามองค์นี้ถ้ารวมกันจะเรียกว่า มิฮาชิราโนสุโนมิโกะ ซึ่งแปลว่าตรีเทพแห่งศาสนาชินโต เทพเจ้าสึโคโยมินั้นก็ทำหน้าที่ปกป้องพระอาทิตย์ตกเหมือนกับเทพเจ้าสององค์แรกเช่นกัน ทางด้านทิศตะวันตกของฮิโนมิซากิคือเกาะฟุมิชิมะซึ่งมีชื่อเรียกอย่างนี้(ฟุมิ แปลว่าพระสูตร และ ชิมะ แปลว่าเกาะ) เพราะว่าเกาะนี้มีรูปร่างเหมือนกับกองของพระสูตรในศาสนาพุทธ ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อนจะสามารถเห็นนกนางนวลหางดำบินอยู่รอบเกาะซึ่งเติมเต็มความสวยงามของวิวพระอาทิตย์ตกได้อย่างดี

    ในทุกวันที่7ของเดือนสิงหาคม พิธีกรรมมิยูกิชินจิจะถูกจัดขึ้นบนเกาะเวลาพระอาทิตย์ตกซึ่งพิธีนี้ถูกปิดเป็นความลับต่อสาธารณะเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ มีแค่บาทหลวงของศาสเจ้าฮิโนมิซากิเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิธีกรรมนี้ได้

  • ซันเซ็ทของ ฮิโนะมิซากิ  เคปและ“สวัสดี Shizumi ไม่มี Miya (ฮิโนะมิซากิ  ศาลเจ้า)”

    พระอาทิตย์ตกดินแห่งชายหาดอินาซะโนะและอาเมะโนะฮิซึมิโนะมิยะ(ศาลเจ้าใหญ่อิซูโมะไทฉะ)

    ในเวลาโพล้เพล้ของวันที่แดดออก ท้องฟ้าเหนือชายหาดอินาสะจะกลายเป็นสีแดง และเงาของเกาะเบนเทนจิมะจะทอดยาวไปถึงชายฝั่ง จากที่แห่งนี้ไปจนถึงทิศใต้ใกล้สุดลูกหูลูกตา คุณจะเพลินเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันน่ามหัศจรรย์ สีแดงเจือไปกับน้ำทะเล ชายหาดอินาสะเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านตำนานญี่ปุ่น และเป็นที่กำเนิดตำนานคุนิยูซูริ(ตำนานดึงเกาะสู่แผ่นดิน)อีกด้วย

    ตำนานดึงเกาะสู่แผ่นดินถูกบันทึกไว้ในสองตำราโบราณญี่ปุ่น ซึ่งก็คือโคจิคิและนิฮงโชคิ ตำนานกล่าวไว้ว่าอามาเทราสึ เทพีแห่งสรวงสวรรค์กล่าวว่าโลกที่ถูกปกครองโดยโอคุนินูชิแท้จริงแล้วควรอยู่ในความดูแลของลูกๆของนาง เทพโอคุนินูชิจึงยอมมอบโลกให้แลกกับศาลเจ้าของเขาจะอยู่สูงเทียบเท่าสวรรค์ที่เทพเจ้าอาศัย

    ศาลเจ้าใหญ่อิซูโมะไทฉะปรากฏในตำรานิฮงโชคิภายใต้ชื่อศาลเจ้าแห่งพระอาทิตย์ตก(อาเมะโนะฮิซูมิโนะมิยะ) ด้วยชื่อนี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่าเมืองอิซูโมะนั้นคือเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่พระอาทิตย์ตกดินมาตั้งแต่สมัยโบราณ

    ชายหาดอินาสะก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ต้อนรับเหล่าเทพเจ้าเช่นกัน แม้กระทั้งในปัจจุบัน ในวันที่สิบเดือนสิบของปฏิทินจันทรคติจะมีผู้แสวงบุญเดินทางมายังอิซูโมะไทฉะทุกๆปี เช่นเดียวกับเทพเจ้าต่างๆที่จะมารวมตัวกันเพื่อผูกสัมพันธ์กัน

  • เดอะซันเซ็ทในที่ดินศักดิ์สิทธิ์ของ งอิซุโมะ

    พระอาทิตย์ตกในเมืองศักดิ์สิทธ์อิซูโมะ

    เมื่อนานมาแล้วเมื่อครั้งที่เมืองยามาโตะ(นาราในปัจจุบัน)ยังเป็นศูนย์กลางในการปกครองและเป็นสถานที่ที่พระอาทิตย์ตกในทางตะวันตกเฉียงเหนือนั้นดูเหมือนจะเชื่อกันว่าเมืองอิซูโมะนั้นเป็นที่ห่างไกลที่พระอาทิตย์จมลงในทะเลและสามารถเชื่อมต่อไปยังอีกโลกหนึ่งได้ มันอาจจะเป็นเพราะว่าในสมัยโบราณเมืองอิซูโมะถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่พระอาทิตย์ตก จึงทำให้ตำราโคจิกิและตำรานิฮงโชกิบันทึกไว้ว่าเมืองอิซุโมะเป็รสถานที่ที่เชื่อมต่อระหว่างโลกของเราและโลกหน้า

    บันจิเมมาชิเตะนั้นเป็นคำภาษาถิ่นของเมืองอิซูโมะ ใช้กล่าวทักทายในตอนเย็น คำนี้ใช้ระหว่างคนนิจะวะ(สวัสดีตอนบ่าย)และคมบังวะ(สวัสดีตอนเย็น) คำนี้เป็นคำที่คุณจะไม่สามารถได้ยินจากที่ไหนในญี่ปุ่นนอกจากที่นี่ จิตวิญญาณของการรวมความรู้สึกพิเศษกับแสงอัสดงคงอยู่ร่วมกับคนเมืองอิซูโมะ แนวชายฝั่งและทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ตกแสดงถึงความเงียบสงบและน่าเกรงขาม

มรดกของญี่ปุ่นในอิซูโมะ

  • ชายหาดอินาสะ โนะ ฮามะ

    ชายหาดอินาสะ โนะ ฮามะ

    ภาพมุมกว้างของพระอาทิตย์ตกนั้นห่างจากศาลเจ้าอิซูโมะ ไทชะไปทางทิศตะวันตกประมาณ1กิโลเมตร ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ตั้งของหลายฉากในตำนานญี่ปุ่นเช่นกัน

  • ชายหาดโซโนะ โนะ นากาฮาม่า

    ชายหาดโซโนะ โนะ นากาฮาม่า

    ชายหาดโซโนะชายหาดที่ทอดยาวถึง10กิโลเมตรที่ถูกกล่าวถึงในตำนานคุนิบิกิ(ตำนานการเชื่อมดินแดน)จากหนังสือเรื่องอิซึโมะ โนะ คุนิ ฟุโดกิ(ฟุโดกิเป็นบันทึกประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วยคำอธิบายต่างๆของ ลักษณะทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของบริเวณต่างๆ) จากหอสังเกตการณ์ของภูเขาโฮโน คุณจะสามารถเห็นวิวตามตำนานที่กล่าวไว้เมื่อ1300ปีที่แล้วได้เลยทีเดียว

  • แหลมฮิโนมิซากิ

    แหลมฮิโนมิซากิ

    แหลมทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของอิซูโมะ ชายฝั่งทะเลนั้นมีความสวยงามมาก

  • ศาลเจ้านากาฮามะ

    ศาลเจ้านากาฮามะ

    เทพเจ้ายาสึคามิอิซูโอะมิซูนุได้รับการสักการะบูชาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เทพเจ้าองค์นี้ปรากฏในตำนานคุนิบิคิในตำราอิซูโมะโนะคุนิฟุโดคิในฐานะเทพเจ้าผู้สร้างดินแดน รวมถึงการกีฬาและการแข่งขัน

  • แม่น้ำคันโดกาวะ

    แม่น้ำคันโดกาวะ

    ตำั้งแต่สมัยโบราณ ปากแม่น้ำแห่งนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างทะเลอิซูโมะสู่ทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดผ่านของผู้คนและเรือมากมาย

  • ศาลเจ้าอิซึโมะ ไทชะ

    ศาลเจ้าอิซึโมะ ไทชะ

    ตามตำราโคจิกิและนิฮงโชกิ ตำนานคุนิยูซูริกล่าวไว้ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบให้โอคุนินูชิแลกกับการที่เขาจะมอบดินแดนนี้ให้เทพเจ้า อีกชื่อหนึ่งคืออาเมะโนะฮิซูมิโนะมิยะ ณ จุดกึ่งกลางของวิหารหลักมีรูปปั้นของโอคุนินูชิหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศของชายฝั่ง

  • คามิมูเกะ ชินจิ

    คามิมูเกะ ชินจิ

    พิธีกรรมชินโตนี้จัดขึ้นที่หาดอินาสะโนะฮามะในตอนเย็นของวันที่ 10 ของเดือนที่ 10 ของปฏิทินจันทรคติโบราณ พิธีต้อนรับเทพมากมายของญี่ปุ่นทุกคนที่มาที่อิซุโมะเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์และความสัมพันธ์(เอ็นมุซุบิ)

  • ศาลเจ้าคามิโนะมิยะ

    ศาลเจ้าคามิโนะมิยะ

    เป็นที่เล่าขานว่าเทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันในเดือนที่สิบตามปฏิทินจันทรคติเก่า เทพเจ้าทั้งหลายจะมาประชุมเกี่ยวกับมนุษย์ที่เรียกว่าคามิฮาคาริ

  • โอโดจิ คากุระ

    โอโดจิ คากุระ

    การเต้นคากุระที่แสดงในบริเวณเมืองอิซูโมะมากว่า300ปีการเต้นชนิดนี้จะจัดในทุกๆเทศกาลที่ศาลเจ้าทั่วไป แต่ในทุกๆปีในปลายเดือนพฤษภาคมจะเป็นการเต้นยูโคคุ คาการิบิแทนซึ่งจะเป็นการเต้นแบบดั้งเดิม

  • ก้อนหินเบียวบุ

    ก้อนหินเบียวบุ

    ก้อนหินบโยบุเป็นก้อนหินที่มีรูปทรงเหมือนแผ่นหินที่พับเป็นคลื่นตั้งอยู่ริมหาดอินาสะ โนะ ฮามะ มันได้ถูกกล่าวไว้ว่าในเงาของหินเทพเจ้าโอคุนิโนชิได้จัดประชุมเรื่องการดูแลแผ่นดิน

  • เกาะฟุเดนาเกจิมะ

    เกาะฟุเดนาเกจิมะ

    ตำนานเล่าว่าในยุคเฮอัน (ค.ศ.794-1185) ศิลปินคนหนึ่งต้องการที่จะวาดรูปเกาะแห่งนี้แต่ไม่สามารถที่จะสื่อความสวยงามที่เปลี่ยนไปในทุกๆนาทีของเกาะแห่งนี้ได้เขาจึงโยนพู่กันของตัวเองทิ้ง จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะฟุเดะนาเกะจิมะ แปลตรงตัวว่าเกาะโยนพู่กัน

  • ก้อนหินสึบุเตะ

    ก้อนหินสึบุเตะ

    ในตำนานคุนิยูซูริในตำราโคจิกิ บุตรชายของโอคุนินุชิและนักรบที่ถูกส่งมาโดยเทพีอามาเทราสึได้แข่งกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากันโดยกายโยนก้อนหินแข่งกันว่าใครโดยได้ไกลกว่า แต่ผลกลายเป็นว่าเขาทั้งสองมีพลังที่ใกล้เคียงกันจึงทำให้ก้อนหินทั้งหมดไปตกอยู่ ณ ที่เดียวกันกลายเป็นเกาะแห่งใหม่ชื่อว่าสึบุเตะอิวะ

  • ประภาคารอิซูโมะ ฮิโนมิซากิ

    ประภาคารอิซูโมะ ฮิโนมิซากิ

    ประภาคารสีขาวนี้เป็นสัญลักษณ์ของฮิโนมิซากิ ประภาคารนี้คอยปกป้องเรือนำทางที่นี่มานานกว่าร้อยปี คุณสามารถปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าชมวิวที่อยู่ด้านบนและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงาม (ราคา 200 เยนเพื่อปีนขึ้นไป)

  • ศาลเจ้าชิโนมิซากิ

    ศาลเจ้าชิโนมิซากิ

    มีศาลเจ้าสองแห่งตั้งอยู่ ได้แก่คามิโนมิยะ(ศาลเจ้าด้านบน)ที่ซึ่งซูซาโนโอะเทพเจ้าแห่งท้องทะเลและพายุสถิตย์อยู่ และฮิชิซูมิโนะมิยะ(ศาลเจ้าด้านล่าง หรือศาลเจ้าพระอาทิตย์ตก)ที่ซึ่งอามาเทราสึ เทพีแห่งดวงอาทิตย์สถิตย์อยู่

  • อิซุโมะ โนะ คุนิ ฟุโดกิ ของศาลเจ้าฮิโนมิซากิ

    อิซุโมะ โนะ คุนิ ฟุโดกิ ของศาลเจ้าฮิโนมิซากิ

    อิซูโมะโนะคุนิฟุโดคิเป็นหนังสือที่เขียนเมื่อ 1,300 ปีก่อนอธิบายถึงชีวิตของผู้คนที่ออกเดินทางในดินแดนนี้อย่างแม่นยำ อิซูโมะโนะคุนิฟุโดคิเป็นหนังสือประเภทเดียวที่มีบันทึกใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ หนึ่งในต้นฉบับถูกบริจาคให้ศาลเจ้าฮิโนมิซากิในปี ค.ศ.1634 และถูกเก็บรักษาไว้ที่นั่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

  • เกาะชิโรอิโทโดชิโยโรอิ หมวกเกราะและเกราะไหล่กับลูกไม้สีขาว

    เกาะชิโรอิโทโดชิโยโรอิ หมวกเกราะและเกราะไหล่กับลูกไม้สีขาว

    ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมบัติแห่งชาติ เกราะสีขาวนี้ถูกเก็บรักษาอยู่ในศาลเจ้าฮิโนมิซากิ เกราะนี้ถูกบริจาคให้ศาลเจ้าแห่งนี้โดยนายพลคนหนึ่งเมื่อเจ็ดร้อยปีที่แล้ว

  • ศาลเจ้าสึกิโยมิ

    ศาลเจ้าสึกิโยมิ

    บนภูเขาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของศาลเจ้าฮิโนมิซากิ นั้นมีศาลเจ้าอีกที่ที่เทพเจ้าสึกิโยมิพี่น้องของเทพเจ้าอามาเทราสึและซุซานุโอะประทับอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่เทพเจ้าหลักของศาสนาชินโตนั้นจะประทับอยู่ในที่ใกล้กัน

  • เกาะฟูมิชิมะ

    เกาะฟูมิชิมะ

    ที่นี่เป็นที่ตั้งเก่าของฮิชิซึมิโนะมิยะแห่งศาลเจ้าฮิโนมิซากิ เป็นสถานที่ต้องห้ามที่เคยมีชื่อว่าฟุมิชิมะ (ฟุมิและว่าหลักธรรมพระสูตร ชิมะแปลว่าเกาะ) เนื่องจากรูปทรงของเกาะดูเหมือนม้วนคัมภีร์ รวมถึงเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ของนกนางนวลหางดำทุกๆปี

  • ศาลเจ้ามิยูกิ ชินจิ

    ศาลเจ้ามิยูกิ ชินจิ

    พิธีกรรมทางศาสนาชินโตถูกจัดขึ้นโดยศาลเจ้าฮิโนมิซากิทุกๆปีในเย็นวันที่ 7 สิงหาคมในช่วงเวลาอาทิตย์ตก เหล่านักบุญเดินทางข้ามเกาะฟุมิชิมะที่กำลังจัดพิธี อีกชื่อหนึ่งของพิธีกรรมนี้คือ "เทศกาลพระอาทิตย์ตก"

  • อุริว

    อุริว

    เมืองท่าอันเงียบสงบทางทิศตะวันออกกของฮิโนมิซากิ มันเคยเป็นท่าเรือค้าขายที่รุ่งเรื่องในสมัยศตวรรษที่15จนถึงศตวรรษที่19

  • เกาะกงเก็นจิมะและศาลเจ้าคุมาโนะ

    เกาะกงเก็นจิมะและศาลเจ้าคุมาโนะ

    เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุริวและมีศาลเจ้าคุมาโนะตั้งอยู่ ในวันที่ 5 ของเดือนแรกในปฏิทินจันทรคติเก่า เทศกาลเก็บเกี่ยวสาหร่าย(พิธีเมคาริ)จะถูกจัดขึ้นบนเกาะแห่งนี้

  • ซากิอุระ

    ซากิอุระ

    เมืืองท่าเล็กๆตั้งอยู่ทางทิศเหนือของศาลเจ้าใหญ่อิซูโมะไทฉะ เคยเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่าอุรุยในสมัยก่อน ในวันสิ้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลกอนเก็น เป็นเทศกาลที่ผู้คนจะอวยพรขอความอุดมสมบูรณ์และเดินทางหาปลาได้อย่างปลอดภัย

  • ถ้ำอิโนเมะ

    ถ้ำอิโนเมะ

    ถ้ำ้ำนี้หันหน้าออกสู่ทะเลญี่ปุ่น ในยุคสมัยโบราณถูกใช้เป็นสุสานฝั่งมนุษย์อย่างต่ำยี่สิบคน บ้างก็กล่าวว่าถ้ำแห่งนี้เป็นประตูไปสู่โลกหลังความตายอ้างอิงจากอิซูโมะโนะคุนิฟุโดคิ