第十六話ประสบการณ์จากเมืองอิซูโมะ หน้าที่ 16

จากโตเกียวถึงอิซุโมะ: การเดินทางสู่ดินแดนราชันย์แห่งภูต(The Shaman King)

การเดินทางได้เริ่มต้นแล้ว

ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาญี่ปุ่นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบวัฒนธรรมอาหารและใฝ่ฝันว่าอยากรับประทานซูชิและเทมปุระ บางคนชอบทิวทัศน์ที่สวยงามซึ่งสามารถชมได้ในทั้งสี่ฤดูกาลของญี่ปุ่น ขณะที่คนอื่นๆ ยังหลงใหลในวัฒนธรรมป๊อปที่พบได้ที่ในย่านฮาราจูกุและชิบุยะของโตเกียว อย่างไรก็ตาม, ฉันคิดว่ามีคนอีกมากมายเหมือนฉัน ที่ตกหลุมรักประเทศญี่ปุ่นเพราะอนิเมะและมังงะ เรามีความฝันว่าในอนาคต เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ในคำพูดและรูปภาพเท่านั้น ครั้งนี้ฉันมาที่ประเทศญี่ปุ่นมีวัตถุประสงค์เพียงหนึ่ง—คือการเยี่ยมชมและประสบการณ์ที่อิซุโมะ, บ้านเกิดเมืองนอนของฮีโร่ที่ฉันชอบ, โย อาซาคุระ จากมังงะเรื่อง The Shaman King

ancient japan izumo
ancient japan izumo
ancient japan izumo

การเดินทางสู่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ของราชันย์แห่งภูต(Shaman King) ของฉันจะเริ่มต้นที่การมาถึงของฉันที่ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว และจะสิ้นสุดที่อิซุโมะ, เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาสูงและทะเลที่สวยงามในจังหวัดชิมาเนะในทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น สถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ ศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์ต่อศาสนาชินโตของญี่ปุ่น มีคนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศมาสักการะที่ศาลเจ้านี้กว่าล้านคนทุกปี แม้ว่าการไปอิซุโมะไทฉะจะอยู่ในแผนการเดินทาง แต่ฉันตื่นเต้นที่สุดที่ได้ไปอิซุโมะ เพราะเป็นที่ที่ฉันจะได้เยียมชมพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิซุโมะ(Izumo Cultural Heritage Museum) ซึ่งใช้เป็นแบบจำลองสำหรับบ้านของโย อาซาคุระ ฉันรอไม่ไหวที่จะเริ่มผจญภัยครั้งนี้แล้ว!

ออกจากสถานีโตเกียว!

หลังจากมาถึงล็อบบี้ชั้น 2 ในอาคารผู้โดยสารที่ 3 ซึ่งเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศที่สนามบินนานาชาติฮาเนดะ ฉันซื้อตั๋วรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังสถานีโตเกียว สถานีขนส่งตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารผู้โดยสาร ที่นี่มีมีรถไฟบริการเข้าเมืองหลายสาย แต่สำหรับผู้ที่มีกระเป๋าสัมภาระเยอะนั้นการใช้รถบัสดูจะเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด เนื่องจากคุณสามารถโหลดสัมภาระขึ้นรถบัสได้ และรถบัสจะสามารถพาคุณไปยังสถานีโตเกียวโดยตรง อย่างไรก็ตาม รถบัสมีการจำกัดจำนวนกระเป๋าเดินทางไว้ไม่เกิน 2 ใบต่อคน หากคุณมีสัมภาระมากกว่านี้ คุณอาจต้องพิจารณาตัวเลือกทางอื่น การเดินทางใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ค่อนข้างสบาย รถบัสญี่ปุ่นมีพื้นที่วางขาและที่นั่งที่สะดวกสบาย ดังนั้น สำหรับผู้ที่เดินทางไปสถานีโตเกียว คุณจะได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายในราคาประหยัด ตั๋วปกติเที่ยวเดียวราคา 1,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 500 เยนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่นั่งบัสเป็นที่นั่งแบบไม่จำเป็นต้องสำรอง สามารถซื้อตั๋วได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วใกล้กับบริเวณขาออกของรถบัส

ancient japan izumo

พอรถบัสมาถึงที่ทางออกยาเอสึกุจิที่ที่สถานีโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฉันจะขึ้นรถไฟชินคันเซ็นโนโซมิอันโด่งดัง ซึ่งจะพาฉันไปโอคายามะ ใกล้กับบ้านของราชาชาแมนขึ้นอีกหนึ่งก้าว! สถานีโตเกียวได้รับความชื่นชมจากหลายคนว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในเมืองโตเกียว ฉันได้ไปเยี่ยมชมจัตุรัสอันโด่งดังด้านนอกทางออกมารุโนะอุจิที่สถานีโตเกียว และถ่ายรูปสถานีอิฐแดงอันมีชื่อเสียง

ancient japan izumo

ฉันมีเวลาเหลือก่อนที่รถไฟจะออก ฉันก็เลยไปที่ร้านกาชากาชา ( gacha gacha) ฉันเดาว่าคุณคงกำลังงเลยละสิว่าร้านกาชากาชา ( gacha gacha) คืออะไร คุณจำเครื่องจักรตอนที่คุณยังเด็ก ที่คุณสามารถใส่เหรียญลงไปแล้วจะมีของเล่นหรือขนมในไข่พลาสติกออกมาได้รึเปล่า? ครึ่งหนึ่งของความตื่นเต้นคือการที่ไม่รู้ว่าคุณจะได้อะไร จนกว่าไข่พลาสติกจะออกจากเครื่องและคุณเปิดมันออก และญี่ปุ่นได้ยกระดับเครื่องในความทรงจำของเรานวัยเด็กนี้ไปอีกระดับหนึ่ง คุณสามารถได้รับแทบทุกอย่างทุกอย่างจากกาชากาชา รวมถึงฟิกเกอร์ของตัวละครอนิเมะที่คุณชื่นชอบ สัตว์ทะเล หรือของสะสมอื่น ๆ ที่คุณนึกออก ร้านนี้มีอยู่เครื่องกาชาเยอะถึงหลายร้อยเครื่อง และฉันได้กาชากาชาตัวละครขนมปังมาให้เป็นของฝากให้เพื่อนที่ชอบขนมปัง หลังจากออกเดินทางพร้อมกับกาชากาชาที่ได้มา ฉันก็เดินเล่นรอบๆ สถานีโตเกียว เพลิดเพลินกับสถานที่และกลิ่นใหม่ๆ ของสถานีที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ และฉันก็ได้เจอกับร้านสโคนที่มีสโคนที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา! แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะนึกถึงข้าวเมื่อนึกถึงญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็มีขนมปังและเบเกอรี่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมาเลย เพราะฉะนั้น อย่าลืมแวะร้านเบเกอรี่ระหว่างที่คุณอยู่ในญี่ปุ่นนะ

ancient japan izumo

สถานีโตเกียวมีขนาดใหญ่มาก เลยอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันซับซ้อนและหลงง่าย แต่ไม่ต้องกังวล เนื่องจากมีป้ายทางที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษมากมายและชัดเจน ซึ่งช่วยในการนำทางทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายมากกว่าที่คิด หากคุณเดินทางจากโตเกียวไปทางตะวันตก ให้มองหาป้ายบอกทางไปรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด ซันโย

ancient japan izumo

ฉันซื้อตั๋วชินคันเซ็นเที่ยวเดียวจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีโอคายาม่าในราคา 17,570 เยน ทางเข้าชินคันเซ็นตั้งอยู่ที่ทางออก Yaesu North (ทิศเหนือ) ถ้าวันนั้นท้องฟ้าแจ่มใส คุณจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิตลอดทางเดินรถไฟไปโอคายาม่า ดังนั้นฉันแนะนำให้เลือกซื้อที่นั่งติดหน้าต่าง E ที่ตั้งอยู่ทางด้านขวาของรถไฟ ให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวได้อย่างสบายตา โชคดีสำหรับฉันที่สภาพอากาศค่อนข้างแจ่มใส ฉันจึงมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาอันสูงตระหง่าน แม้ว่าจะมีเมฆบางส่วนบดบังทัศนียภาพที่สวยงามก็ตาม คุณจะผ่านภูเขาไฟฟูจิประมาณ 30 นาทีหลังจากออกจากสถานีโตเกียว ดังนั้น อย่าเผลอหลับไปและพลาดวิวของภูเขาฟูจิเด็ดขาด!

คุณสามารถซื้อตั๋วประเภทต่างๆ สำหรับรถไฟชินคันเซ็นได้ มีทั้งที่นั่งแบบสำรองและไม่สำรอง หลายๆคนเลือกที่จะจะซื้อที่นั่งแบบไม่สำรอง เพราะจะทำให้เวลาออกเดินทางมีความยืดหยุ่นกว่าและราคาถูกกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าคุณต้องการที่จะมั่นใจว่าคุณจะมีที่นั่ง โดยเฉพาะที่นั่งที่เห็นภูเขาฟูจิ ฉันขอแนะนำให้ซื้อตั๋วแบบสำรองที่นั่ง วิธีนี้จะดีที่สุดหากคุณแน่ใจว่าต้องการออกเดินทางตอนไหน แน่นอนว่าถึงแม้จะจองที่นั่งแล้ว คุณก็สามารถขึ้นรถไฟขบวนอื่นได้เสมอหากราคาเท่ากัน แต่อาจไม่รับประกันว่าคุณจะสามารถนั่งที่ที่คุณอยากจะนั่งได้

ผู้ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น บัตรเจแปนเรลพาส (Japan Rail Pass) ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณ พาสนี้ช่วยให้คุณเดินทางได้ไม่จำกัดบนรถไฟ (ส่วนใหญ่) ได้ในระยะเวลาที่กำหนด คุณสามารถเลือกระหว่างบัตร7 วัน บัตร 14 วัน และบัตร 21 วัน คุณยังสามารถเลือกระหว่างที่นั่งสำรองสีเขียว(green seat)และที่นั่งไม่สำรองได้ ราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของ บัตรเจแปนเรลพาส (Japan Rail Pass) ที่คุณเลือก บัตรนี้จำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น และสำหรับชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศระยะยาวเท่านั้น แม้ว่า บัตรเจแปนเรลพาส (Japan Rail Pass) จะสะดวกมาก แต่ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งรถไฟรถไฟชินคันเซ็นขบวนโนโซมิ(Nozomi) และ ขบวนมิซุโฮะ(Mizuho) เว้นแต่จะจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ก่อนออกจากสถานีโตเกียวฉันซื้อเอกิเบน(อันโดงดัง) ไว้กินระหว่างทางไปโอคายาม่า เอกิเบนเป็นคำที่มาจากคำในภาษาญี่ปุ่นว่าเอกิ (สถานีรถไฟ) และเบ็น (เบนโตะหรือข้าวกล่อง) กล่องเบนโตะที่มีสารอาหารครบถ้วนได้สัดส่วนมีหลากหลายแบบให้เลือก ในข้าวกล่องจะมีด้วยเนื้อสัตว์ ปลา หรือผักท้องถิ่น

ถึงแม้ว่าการรับประทานอาหารบนรถไฟท้องถิ่นจะเป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยชอบใจ แต่การรับประทานอาหารบนรถไฟชินคันเซ็นไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่หลายๆคนชื่นชอบอีกด้วย เอกิเบนทั้งหมดดูน่ากินไปมาก จนยากที่จะเลือกแค่กล่องเดียว ฉันเลยเลือกไปเลยสองกล่อง เอกิเบนไก่กับผัก และเอกิเบนซีฟู้ด หลังจากนั้นฉันจึงหาทางไปที่ชานชาลาเพื่อรอรถไฟ ด้วยของกินเต็มไม้เต็มมือไปหมด ที่นี่มีรถไฟวิ่งไปทุกทิศทาง เพราะฉะนั้นคุณควรเช็คชานชาลาที่ถูกต้องก่อนขึ้นรถไฟ ป้ายข้อมูลรถไฟที่สถานีโตเกียว ก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน

ancient japan izumo

รถไฟชินคันเซ็นและภูเขาไฟฟูจิอันงดงามตระการตา

ระยะเวลาจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีโอคายาม่าใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง รถไฟชินคันเซ็นมีทั้ง Wi-Fi และเต้าเสียบปลั๊กไฟสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่หลายครั้งที่ปลั๊กจะอยู่ริมหน้าต่าง ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คุณควรจองที่นั่งริมหน้าต่าง

ฉันนั่งลงบนที่นั่งริมหน้าต่างอันแสนสบาย ชาร์จโทรศัพท์ และกินเอกิเบนแสนอร่อยของฉัน โชคดี ครั้งนี้ที่ฉันได้เห็นภูเขาไฟฟูจิอันงดงามจากหน้าต่างของฉันหลังจากเดินทางประมาณ 30 นาที และมันก็สวยงามเหมือน กับที่ฉันจินตนาการไว้ ทั้งอาหารและวิวนั้นน่าทึ่งมากจริงๆ

ancient japan izumo
ancient japan izumo

โอคายาม่า บ้านของเด็กชายพีช

หลังจากมาถึงโอคายาม่า มีสองสิ่งที่ฉันอยากทำ ก่อนที่จะขึ้นรถไฟขบวนถัดไปเพื่อที่จะไปอิซุโมะ ฉันอยากไปดูร้านโอมิยาเกะ (ร้านขายของที่ระลึก) ในสถานีโอคายาม่า และก็อยากไปถ่ายรูปเซลฟี่หน้ารูปปั้นโมโมทาโร่อันโด่งดังที่ตั้งอยู่ด้านนอกสถานี

คุณเคยได้ยินเรื่องของโมโมทาโร่ไหม? โมโมทาโร่เป็นนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง เกี่ยวกับเด็กชายที่เกิดมาจากลูกพีช และเขาได้ออกเดินทางเพื่อต่อสู้กับปีศาจ ระหว่างทาง เขาแบ่งคิบิดังโงะหรือขนมแป้งข้าวเจ้า และได้ผูกมิตรพวกกับสัตว์ต่างๆ นิทานเรื่องนี้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และผู้ใหญ่ทั่วประเทศญี่ปุ่น และเมืองโอคายาม่าก็เต็มไปด้วยของที่ระลึกในธีมโมโมทาโร่ และชื่อของโมโมทาโร่ก็สามารถพบได้ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโมโมทาโร่ ( Momotaro Tourist Information Center) หลังจากมาถึงรูปปั้นโมโมทาโร่ หลังจากที่ฉันได้ถ่ายเซลฟี่แล้ว ฉันก็มุ่งหน้าไปที่ร้านโอมิยาเกะ (ร้านขายของที่ระลึก) เพื่อจะซื้อขนมชื่อดังของโมโมทาโร่

โอมิยาเกะ เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "ของขวัญ" หรือ "ของที่ระลึก" และเป็นธรรมเนียมของญี่ปุ่นที่จะซื้อ โอมิยาเกะ ให้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานเมื่อคุณเดินทาไปสถานที่ต่างๆ ขนมหวานและของขบเคี้ยวถือเป็นโอมิยาเกะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ของที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโอคายาม่าคือคิบิดังโงะจากนิทานพื้นบ้านโมโมทาโร่ ในสถานีมีร้านค้าดีๆ มากมายที่คุณสามารถซื้อโอมิยาเกะได้ ดังนั้นฉันเลยตัดสืนใจซื้อคิบิดังโงะสองสามกล่องเล็ก ๆ ไว้ทานระหว่างไปเที่ยวที่อิซูโมะ คิบิดังโงะมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ดังนั้นอย่าลืมลองชิมให้ครบนะ!

ancient japan izumo

รถไฟสายด่วนจากโอคายาม่าไปยังอิซุโมะเรียกว่าโทคิวยาคุโมะ ( Tokyu Yakumo) และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายโดยตรงจากชินคันเซ็นจะพบว่าเปลี่ยนได้ไม่ยากเลย (แนะนำให้ซื้อคิบิดังโงะก่อนนะ!) การเดินทางสามชั่วโมงจากโอคายาม่าไปยังอิซุโมะนำเสนอทิวทัศน์ตระการตาของภูเขาและแม่น้ำในพื้นที่ชูโงะคุ (Chugoku) ของญี่ปุ่น รวมถึงทะเลสาบชินจิอันตระการตาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมาเนะ ตั๋วของที่นั่งแบบสำรอง เที่ยวเดียวสำหรับผู้ใหญ่ราคา 6,820 เยน

ancient japan izumo
ancient japan izumo

หลังจากการเดินทางด้วยรถไฟเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ฉันได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามและกินคิบิดังโงะแสนอร่อย ในที่สุดฉันก็มาถึงเมืองอิซุโมะ บ้านเกิดของ โย อาซาคุระ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในที่สุดฉันก็มาถึงที่นี่แล้ว แต่ความจริงแล้วการผจญภัยของฉันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น!

ancient japan izumo

ในอิซุโมะ:บ้านของโย อาซาคุระ

ฉันอยู่ห่างจากจุดหมายปลายทางของฉัน พิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิซุโมะเพียงไม่กี่กิโลเมตร แต่วิธีที่ดีที่สุดในการไปที่นั่นคืออะไร? หลังจากการหาข้อมูลการเดินทางแล้ว ฉันค้นพบว่าฉันสามารถเช่าจักรยานได้ที่สถานีรถไฟเมืองเดนเท็ตซุ อิซุโมะฉิ (Dentetsu Izumoshi) และนั่งรถไฟท้องถิ่นชื่อบาตะเดน (Bataden)ไปยังป้ายที่ใกล้พิพิธภัณฑ์ที่ใกล้สุด ที่ป้าย ฮามายามะ โคเอ็น คิตะกุจิ (ทางออกทิศเหนือของสวนฮามายามะ) ค่าธรรมเนียมเที่ยวเดียวไปยังสถานีฮามายามะโคเอ็นคิตะกุจิอยู่ที่ 450 เยน บวกค่าธรรมเนียมเพื่อเอาจักรยานขึ้นรถไฟ เพิ่มเติมอีก 320 เยน

การปั่นไปพิพิธภัณฑ์ฟังดูสนุกกว่าการนั่งรถบัสหรือแท็กซี่ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจลองปั่นไปดู ค่าเช่าจักรยานไฟฟ้าอยู่ที่ 830 เยนต่อคนต่อวัน สิ่งที่ดีที่สุดคือ เราไม่จำเป็นต้องคืนจักรยานไปที่สถานีเดิม แต่สามารถส่งคืนได้ที่สถานี อิซูโมะ ไทชะ(Izumo Taisha) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของฉันในอิซุโมะ โดยจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ตอนที่เช่าและชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 1,040 เยน

ฉันเช่าจักรยานแล้วรีบไปที่สถานี เนื่องจากรถไฟของฉันจากโอคายามาล่าช้าไปเล็กน้อย ฉันจึงมีเวลาเพียงไม่กี่นาทีสำหรับขึ้นรถไฟ เจ้าหน้าที่ที่สถานีให้ความช่วยเหลือดีมาก ในการนำจักรยานขึ้นลิฟต์และขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็นชานชาลา โชคดีที่ฉันขึ้นรถไฟได้ทันเวลา แหละยังมีเวลาเหลืออีกสองนาทีด้วย! รถไฟขบวนแรกที่ฉันขึ้นมีพื้นที่เปิดโล่งสำหรับวางจักรยาน แต่เนื่องจากเป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้า จึงค่อนข้างหนัก และเป็นการระวังไม่ให้จักรยานชนคนรอบข้างก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่ยาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟช่วยฉันยึดจักรยานด้วยสายรัด และเมื่อเรามาถึงสถานี เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟก็ช่วยฉันนำจักรยานออกจากรถไฟด้วย รถไฟ Bataden เป็นรถไฟท้องถิ่นขนาดเล็ก ดังนั้นจึงไม่มีพนักงานประจำที่สถานี ดังนั้นคุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้มอบตั๋วให้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟ หรือวางไว้ในกล่องใส่ตั๋วก่อนลงจากรถไฟด้วยนะ

อากาศดีมาก ฉันขี่จักรยานบนถนนราบเรียบประมาณ 20 ถึง 30 นาที การเดินทางจากสถานีรถไฟไปพิพิธภัณฑ์นั้นดีมากๆ! อากาศไม่หนาวเกินไปและทิวทัศน์ระหว่างทางก็สวยสุดๆ พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่ใช้จักรยานไฟฟ้า และจักรยานไฟฟ้าทำให้การปั่นจักรยานเป็นเรื่องง่ายไปเลย มีหลายครั้งที่ฉันรู้สึกเหมือนว่าจักรยานยนต์กำลังจะพุ่งไปขึ้นโดยที่ฉันยังอยู่ที่เดิม กว่าจะชินก็ใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยนิดหน่อย แต่สำหรับฉันแล้วนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัย

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของราชันย์แห่งภูต(The Shaman King)

และหลังจากนั่งรถไปได้ 20 นาที ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทาง!! บ้านของโย อาซาคุระ พิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิซุโมะ(Izumo Cultural Heritage Museum) เหมือนที่มันถูกบรรยายไว้ในมังงะ และก็เหมือนที่ฉันจินตนาการเอาไว้เลย ฉันไปดูห้องเล็กๆ ที่ดูเหมือนพิพิธภัณฑ์ของโย อาซาคุระเป็นอย่างแรกเลย ที่ห้องนั่นมีสิ่งของจากมังงะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ ฟิกเกอร์ ป้าย ฯลฯ หลังจากนั้นฉันก็แวะไปถ่ายรูปบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์สักรูปสองรูป ฉันเลยย้อนตามรอย และลองจำลองฉากที่ฉันชอบ หลายฉากจากมังงะขึ้นมาใหม่ ด้วยการเลียนแบบท่าโพสของโย อาซาคุระในสถานที่เดียวกัน สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ในฝันของแฟนๆ ชาแมนคิง ดังนั้นฉันจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสในการถ่ายรูปเจ๋งๆ เหล่านี้หลุดลอยไป!

ancient japan izumo
ancient japan izumo
ancient japan izumo

จากนั้น ฉันก็ไปเยี่ยมชมอิซุโมะ ยาชิกิ ที่เป็นห้องเสื่อทาทามิขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลางอาคารพร้อมกับทิวทัศน์อันงดงามของสวนญี่ปุ่น ฉันใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ และได้นั่งคิดว่าสถานที่แห่งนี้ยอดเยี่ยมขนาดไหน พื้นที่เปิดโล่งของห้องเสื่อทาทามิ และสวนที่ออกแบบอย่างประณีต ทำให้ฉันจิตใจสงบลง เข้าใจได้เลยว่าทำไมผู้สร้าง(แต่ง,ประพันธ์)ราชันย์แห่งภูต (The Shaman King) ฮิโรยูกิ ทาเคอิ ถึงเลือกที่นี่ให้เป็นบ้านเกิดของโย อาซาคุระ

ancient japan izumo

ตอนแรกฉันจะขี่จักรยานไปพิพิธภัณฑ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นฉันก็จะกลับไปที่สถานีเดิมแล้วนำจักรยานไปบนรถไฟบาตะเดน (Bataden) ไปที่ป้าย ฮามายามะ โคเอ็น คิตะกุจิ (ทางออกทิศเหนือของสวนฮามายามะ) แต่เพราะจักรยานนั้นหนัก รถไฟก็เต็มไปดวยผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ฉันเลยตัดสินใจขี่จักรยาน จากพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิซุโมะไปอิซุโมะ ไทฉะแทน

ระหว่างที่ฉันปั่นออกจากศูนย์วัฒนธรรมไปอิซุโมะ ไทฉะ ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้มีโอกาสเดินทางในครั้งนี้ แต่การผจญภัยของฉันนั้นยังไม่จบ! ฉันออกตามหาจุดหนึ่งบนอิซูโมะ ไทฉะ ซันโดะหรือก็คือเส้นทางสักการะที่ปรากฏในซีรีส์มังงะเรื่อง ราชันย์แห่งภูต (The Shaman King)

จุดแวะพักสุดท้าย: อิซุโมะ ไทฉะ

การปั่นจักรยาน20 นาทีไปอิซุโมะไทฉะดีพอๆ กับการนั่งรถไปที่ศูนย์วัฒนธรรมเลย และแน่นอนว่า Google Mapsก็เป็นเพื่อนร่วมเดินทางของฉันอีกครั้งนึง แต่บนถนนก็มีป้ายบอกทางไปยังอิซุโมะ ไทชะเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ หลังจากมาถึงสถานีอิซุโมะ ไทฉะ ฉันก็คืนจักรยานที่เช่ามาและเดินต่อไป

ancient japan izumo

อย่างแรกที่ฉันทำคือเข้าไปในสถานีเพื่อค้นหาฉากจากราชันย์แห่งภูต(The Shaman King)—และฉันก็เจอมัน! ฉันเลยลองจำลองฉากนี้ขึ้นมาใหม่ โดยการไปถ่ายภาพบนม้านั่ง ที่อยู่บนชานชาลาหน้ารถไฟที่กำลังจะออกเดินทาง จนถึงตอนนี้ฉันเคยได้แค่ดูฉากและบรรณากาศ นี้แค่ในมังงะ แต่การที่ได้มาเห็นทุกอย่างที่ได้เห็นบางสิ่งด้วยตาของตัวเอง มันน่าประทับใจสุดๆ

ancient japan izumo
ancient japan izumo
ancient japan izumo

ระหว่างที่ฉันเดินตามรอยของราชันย์แห่งภูต(The Shaman King) ฉันก็ตามหาร้านอาหารที่ปรากฏในมังงะ แต่หลังที่ฉันจากสอบถามที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ได้บอกว่าร้านนั้นไม่ได้เปิดให้บริการอีกแล้ว อ่า น่าเสียดายจริงๆ แต่ฉันก็รู้ว่าชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ และแม้ว่าบางครั้งฉันหวังว่าเวลาจะหยุดนิ่งและถูกแช่แข็งไว้ตลอดไปในหน้ามังงะ แต่การเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งเดียวที่แน่นอน ฉันจะไม่ให้เรื่องแค่นี้ทำให้ฉันเสียกำลังใจ ฉันจึงจำลองฉากต่างๆ จากเรื่องราชันย์แห่งภูต(The Shaman King) ขึ้นมาใหม่ และถ่ายรูปหน้าสถานี อิซุโมะ ไทฉะ และภาพอื่นๆรอบๆเส้นทางบูชา ซันโดะที่นำไปสู่ทางเข้าศาลเจ้า ฉันก็จบวันด้วยการถ่ายภาพที่ระลึก ที่หน้าประตูโทริอิขนาดใหญ่ด้านหน้าอิซุโมะ ไทฉะ

ancient japan izumo

มองย้อนกลับไปใน การเดินทางของฉัน ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของราชันย์แห่งภูต(The Shaman King)

ที่นี่ที่อิซุโมะ ไทชะ การเดินทางของฉันได้สิ้นสุดลง เมื่อการเดินทางจบลงฉันก็เต็มไปด้วยความเศร้า และความขอบคุณที่ได้เห็นทุกสิ่งที่ฉันได้ใฝ่ฝันมาตลอด ราชันย์แห่งภูต(The Shaman King) เป็นมังงะที่ผู้มีคนที่ชื่นชอบและติดตามทั่วโลก รวมถึงตัวฉันเองด้วย พิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิซุโมะคือจุดหมายปลายทางของฉัน แต่การเดินทางทั้งหมดจากสนามบินนานาชาติโตเกียวฮาเนดะ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของฉันในครั้งนี้ การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ยาวนาน แต่ฉันรู้สึกสนุกไปกับทุกย่างก้าว จากการเดินทางนี้ ฉันไม่ได้เพียงแค่ได้เชื่อมต่อกับฮีโร่ของฉัน โย อาซาคุระ เท่านั้น แต่ก็ยังได้เชื่อมโยงกับคนญี่ปุ่นที่มีอัธยาศัยดีด้วย ขณะที่ฉันกับไปไตร่ตรองการเดินทางรอบนี้ของฉัน ฉันได้รู้ว่าฉันไม่เพียงแต่ได้ใกล้ชิดกับโย อาซากุระเท่านั้น แต่ยังได้เข้าถึงใจกลางของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งคุณจะได้รับประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์แบบเดียวกับที่ฉันได้สัมผัส

ancient japan izumo

คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการเดินทางของคุณ:

  • •พยายามนำสัมภาระให้ไปน้อยที่สุด หากคุณพักในโรงแรม คุณสามารถฝากสัมภาระขนาดใหญ่ไว้ที่โรงแรม หรือใช้ล็อคเกอร์ที่ตั้งอยู่ในสถานีต่างๆ เพื่อฝากสัมภาระ ทริปปั่นจักรยานจะสบายที่สุด ถ้าคุณมีแค่กระเป๋าเป้
  • •อย่าลืมชาร์จอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณก่อนออกเดินทาง และใช้ประโยชน์จากปลั๊กไฟในรถไฟชินคันเซ็น แนะนำให้เอาพาวเวอร์แบงค์ไปด้วย โทรศัพท์ของฉันแบตหมด ต้องท้ายๆของทริป เลยต้องหยุดพักที่สตาร์บัคส์ เพื่อชาร์จโทรศัพท์ก่อนจึงจะสามารถเดินทางต่อได้
  • • อากาศที่อิซุโมะมักจะเย็นกว่าโตเกียว ดังนั้นถ้าคุณจะเดินทางในฤดูหนาว อย่าลืมแต่งตัวให้อบอุ่นด้วย นอกจากนี้ ควรสวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่สบาย ให้เหมาะกับการปั่นจักรยานด้วย
  • • อย่าลืมลองชิมอาหารท้องถิ่นของอิซุโมะ โดยเฉพาะโซบะ!
  • •ที่สำคัญที่สุด การมีจิตใจที่เปิดกว้างและตารางเวลาที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์และเพลิดเพลินไปกับสิ่งมหัศจรรย์ที่อิซูโมะมีให้อย่างเต็มที่

izumo experience