เดินในซะงิอุระโช ท่าเรือรอลม
เมืืองท่าเล็กๆตั้งอยู่ทางทิศเหนือของศาลเจ้าใหญ่อิซูโมะไทฉะ เคยเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่าอุรุยในสมัยก่อน ในวันสิ้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลกอนเก็น เป็นเทศกาลที่ผู้คนจะอวยพรขอความอุดมสมบูรณ์และเดินทางหาปลาได้อย่างปลอดภัย
อ่าวซากิอุระ
อ่าวธรรมชาติที่งดงามที่ซากิอุระ เปรียบเสมือนที่หลบภัยบนชายฝั่งที่ถูกซัดกระหน่ำด้วยคลื่นลมแรง จึงดึงดูดให้มีผู้คนมาอาศัยอยู่ที่นี่อย่างต่อเนื่องตลอดหลายพันปี อ่าวลึกมีทางเข้าแคบและโอบล้อมด้วยเนินเขาจึงปลอดภัยจากลม อีกทั้งยังมีเกาะคาชิวะตั้งเหมือนเป็นแนวกั้นคลื่นป้องกันให้อีกชั้นที่ปากอ่าว
ในช่วงกลางของสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) ญี่ปุ่นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เรือสินค้าจากเกียวโตและโอซาก้าล่องเรือผ่านทะเลญี่ปุ่นและแวะค้าขายรวมทั้งนำความเจริญไปสู่เมืองท่าเลียบชายฝั่งเกาะฮอนชูทางตอนเหนือ ซากิอุระก็เฟื่องฟูอย่างยิ่ง พร้อมพรั่งไปด้วยผู้ประกอบกิจการค้าส่ง ที่พัก เหล่าลูกเรือสามารถนำเรือเข้ามาจอดทอดสมอได้อย่างปลอดภัยเพื่อรอเวลาให้ทิศทางลมเป็นไปอย่างที่ต้องการ จุดตรึงเรือที่สลักไว้บนก้อนหินที่เรียงรายอยู่ริมทะเลฝั่งตะวันตกของเมืองยังคงหลงเหลือให้เห็นได้อย่างชัดเจนจนถึงวันนี้ บางจุดจะเห็นได้ถึงร่องที่ทำไว้เพื่อสร้างจุดยึดให้กับเชือกโยงเรือ
ระหว่างสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) และสมัยไทโช (ค.ศ. 1912-1926) มีเรือสินค้าจากโอซาก้ามาเทียบท่าที่ซากิอุระเป็นประจำ เรือที่ขนข้าวจากโทโฮคุ ปลานิชิน (ปลาเฮอริ่งแปซิฟิก) และสาหร่ายคมบุจากฮอกไกโดทำให้การค้าในเมืองแห่งนี้เติบโตอย่างมาก ในช่วงปี 1888 ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองรุ่งเรืองที่สุด เชื่อกันว่าในแต่ละปีบริษัทเรือต้องดูแลเรือกว่า 100 ลำ
ปัจจุบันอุตสาหกรรมหลักของชาวซากิอุระคือการประมง อ่าวซากิอุระยังคงเป็นสถานที่สำคัญสำหรับชาวประมงในท้องถิ่นอยู่จนทุกวันนี้ ทะเลที่คาบสมุทรชิมาเนะเต็มไปด้วยปลาฮามาจิ อิซากิ ซาวาระ ปลาหมึก และปลาคาเรอิที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้ ชาวประมงบางส่วนยังประกอบธุรกิจเรือนำเที่ยวตามแนวชายฝั่งที่เต็มไปด้วยหิน โพรงถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลที่มีรูปร่างแปลกตา ถ้ำขนาดเล็ก ต่ำลงไปจากแนวหน้าผาหินขรุขระที่ชายฝั่งมีเกาะกระจัดกระจายกันอยู่ เกาะจำนวนมากเหล่านี้เดินทางไปได้ด้วยเรือเพียงเท่านั้น อีกทั้งยังมีความงดงามที่ตราตรึงใจ
ถ้าเดินทางมาเที่ยวที่นี่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกรกฎาคมก็จะได้เห็นฝูงนกนางนวลหางดำที่ท่าเรืออีกด้วย นกนางนวลหางดำซึ่งจะมาที่ชิมาเนะทุกปีในช่วงฤดูผสมพันธุ์เหล่านี้มีเสียงร้องที่แปลกเหมือนแมวทำให้แยกแยะจากนกนางนวลชนิดอื่นได้ง่าย ทำให้มันมีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า "อุมิเนโกะ (แมวทะเล)"
อ่าวซากิอุระ
1044-1 ซางิอุระ ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เบอร์โทรศัพท์ : ศาลเจ้าอินาเสะฮากิ
ใน "อิสึโมะโนะคุนิฟุโดคิ" บันทึกประวัติศาสตร์เล่มแรกก็มีกล่าวถึงศาลเจ้าแห่งนี้
ศาลเจ้าอินาเสะฮากิเป็นศาลเจ้าที่ขึ้นตรงกับศาลเจ้าอิสึโมะไทชะ ความสัมพันธ์ของศาลเจ้าทั้งสองแห่งนี้มีกล่าวถึงอยู่ในตำนานเทพเจ้าที่มีชื่อเสียงว่า เทพเจ้าอินาเสะฮากิโนะมิโคโตะได้พยายามอย่างมากที่จะทำให้โอคุนินุชิโนะคามิเทพเจ้าแห่งศาลเจ้าอิสึโมะไทชะยินยอมที่จะมอบดินแดนให้กับเทพอามาเทราสึโอมิคามิและทายาท ด้วยเหตุนี้เทพโอคุนินุชิโนะคามิจึงได้รับการบูชาไว้คู่กันในอีกชื่อหนึ่งคือยาจิโฮะโคโนะคามิ นอกจากนี้นักบวชชั้นสูงของศาลเจ้าอิสึโมะไทชะยังเชื่อกันว่าสืบเชื้อสายมาจากเทพอาเมโนะโฮฮิ บิดาของเทพอินาเสะฮากิโนะมิโคโตะอีกด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างศาลเจ้าอิสึโมะไทชะและศาลเจ้าอินาเสะฮากิยังปรากฏให้เห็นอยู่ในรายละเอียดทางโครงสร้างของศาลเจ้าจำนวนมากอีกด้วย รูปปั้นโคมาอินุ (สุนัขพิทักษ์) ที่ทางเข้าศาลเจ้าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศาลเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับศาลเจ้าอิสึโมะไทชะ อุโบสถหลักของศาลเจ้าอินาเสะฮากิก็มีลักษณะเหมือนศาลเจ้าอิสึโมะไทชะ คือสร้างด้วยไม้ที่ไม่มีการขัดแต่งขั้นสุดท้าย และสร้างเป็นแบบยกพื้นสูง และล้อมด้วยรั้วไม้ ทุกครั้งที่มีการบูรณะซ่อมแซมศาลเจ้าอิสึโมะไทชะ ศาลเจ้าอินาเมะฮากิก็จะได้รับการบูรณะใหม่ด้วย ในปี 1744 มีการนำไม้ที่เหลือจากการสร้างศาลเจ้าอิสึโมะไทชะไปใช้ในการบูรณะซ่อมแซมศาลเจ้าอินาเสะฮากิด้วย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองศาลเจ้านี้ได้เป็นอย่างดี
เทพอินาเสะฮิกิโนะมิโคโตะได้ชื่อว่าเป็นเทพที่สามารถรักษาโรคไข้ทรพิษได้ และเชื่อกันว่าหากนำก้อนหินเล็กๆ หนึ่งก้อนจากศาลเจ้าแห่งนี้พกติดตัวไว้ในเสื้อผ้าจะช่วยขับไล่โรคนี้ได้ มีบันทึกไว้ว่าหลังจากเหล่าพระโอรสหายจากโรคไข้ทรพิษ จักรพรรดิโมโมโซโนะ (ค.ศ. 1741-1762) ได้นำโคมไฟตราดอกเบญจมาศสองดวงของราชวงศ์มาถวายให้กับที่ศาลเจ้าเพื่อแสดงความขอบคุณ ซึ่งศาลเจ้าอินาเสะฮากิจะมีการจัดพิธีกรรมในวันที่ 8 ตุลาคมของทุกปี
120 ซางิอุระ ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ (แผนที่)
เบอร์โทรศัพท์ : 0853-53-0204
บทความที่เกี่ยวข้อง
แม่น้ำที่มีน้ำใสแจ๋วซึ่งถูกคั่นไว้ด้วยแนวต้นซากุระสายนี้ไหลผ่านด้านข้างของศาลเจ้าอินาเสะฮากิไปลงทะเลที่อ่าวซากิอุระ สายน้ำที่บริสุทธิ์แห่งนี้เป็นที่อาศัยในอุดมคติสำหรับกบคาจิกะที่มีเสียงร้องอันไพเราะท่ามกลางธรรมชาติ กบคาจิกะเป็นกบแม่น้ำที่มีอยู่เฉพาะในญี่ปุ่น ลักษณะคือมีผิวสีน้ำตาลอมเทาและมีลำตัวแบน ในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคม กบคาจิกะตัวผู้จะมายึดครองก้อนหินในแม่น้ำยาจิโยะเพื่อใช้หาคู่
ชาวเมืองซากิอุระจะมีการจัดงานชมธรรมชาติยามกลางคืนขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพื่อมารื่นรมย์กับเสียงร้องอันไพเราะของกบชนิดนี้ แสงจากเทียนที่ใส่ไว้ในกระบอกไม้ไผ่จะสว่างเรียงรายไปตามริมแม่น้ำเป็นทางยาว 30-40 เมตร เพื่อให้ผู้คนที่มากันเป็นครอบครัวได้ชื่นชมหิ่งห้อยไปพร้อมๆ กับฟังเสียงร้องของกบคาจิกะ
แม่น้ำยาจิโยะ
ซางิอุระ ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เส้นทางเดินเล่นซากิอุระ (อุทยานแห่งชาติ)
เส้นทางเดินเล่นซากิอุระเริ่มต้นจากชายทะเลฝั่งตะวันตกของเมือง ไต่ระดับขึ้นไปจนถึงยอดเนินเขาฝั่งตะวันตกที่มองเห็นได้ทั่วอ่าวซากิอุระ เพื่อให้ได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของแนวชายฝั่งจากที่สูงอย่างเต็มตา โดยเป็นระยะทางที่มีความยาวประมาณ 2.5 กม. และที่ประมาณกึ่งกลางของเส้นทางจะมีทางแยกที่เรียกว่าเส้นทางอุเมนาดะซึ่งนำไปสู่ชายทะเลที่ห่างไกลผู้คน เส้นทางหลักสามารถเดินไปได้ถึงประภาคารซากิอุระ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเกาะเล็กเกาะน้อยและถ้ำเล็กๆ ตามแนวชายฝั่งได้อย่างทั่วถึง หน้าผาที่ประภาคารตั้งอยู่มีถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่นี้อยู่ด้วย
ตามริมถนนส่วนใหญ่จะเป็นแนวต้นสน แต่ก็มีภาพต้นไม้ติดผลและมีดอกไม้ต่างๆ เบ่งบาน เช่น เบย์เบอร์รี่ญี่ปุ่น เกาลัด มะเยาหิน และคาร์มีเลียญี่ปุ่นนั้นน่าประทับใจมาก และในบริเวณนี้ยังมีกวางและหมูป่าอาศัยอยู่ด้วย
เกาะคาชิวะและเทศกาลกงเก็น
เกาะคาชิวะซึ่งเป็นโขดหินหยาบตั้งอยู่ที่ปากอ่าวซากิอุระนั้นมองไปก็เหมือนคลื่น เกาะคาชิวะทำหน้าที่เหมือนแนวกันคลื่นตามธรรมชาติ ปกป้องเมืองให้ปลอดภัยจึงมีความสำคัญและได้รับการเคารพนับถือมาอย่างยาวนาน เมื่อเดินขึ้นบันไดหินหยาบๆ เลียบแนวหน้าผาที่ทอดยาวไปถึงที่สูงบนเกาะก็จะได้พบกับศาลเจ้าคาชิวะตั้งอยู่ใต้หินที่โผล่ยื่นออกมา เทพเจ้าที่ได้รับการบูชาอยู่ที่นี่มี 2 องค์ ได้แก่เทพซูซาโนะโอโนะมิโคโตะเทพเจ้าผู้ดุร้ายของชินโต และเทพเอบิสึเทพผู้คุ้มครองชาวประมง
ในเวลาพระอาทิตย์ตกดินในวันที่ 31 กรกฎาคมของทุกปี ชาวเมืองจะพากันจัดงานเทศกาลกงเก็นขึ้น โดยมีเจ้าอาวาสของวัดเป็นผู้ทำพิธี ชาวเมืองจะแยกย้ายกันลงเรือ โดยเรือจะมีการประดับตกแต่งเป็นพิเศษสำหรับงานเทศกาลด้วยโคมไฟและธงปลาผืนใหญ่ที่แสดงให้เห็นว่ามีปลาอุดมสมบูรณ์มากเป็นพิเศษ ชาวประมงจะนำเรือแล่นตามกันวนรอบเกาะคาชิวะ เพื่อขอพรให้ในปีถัดไปมีความปลอดภัยและมีปลาอย่างอุดมสมบูรณ์
เว็บไซต์ เบอร์โทรศัพท์ : ที่นี่แตกต่างจากเมืองอื่นที่มีย่านประวัติศาสตร์เพียง 1-2 แห่ง เพราะเมืองซากิอุระทั้งเมืองจะทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในยุคอื่น บ้านเรือนในเมืองประดับประดาด้วยการตกแต่งทางสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ถนนส่วนใหญ่แคบเกินกว่าที่รถจะผ่านได้ ทัศนียภาพที่นี่ยังคงเหมือนในช่วงปลายยุค 1800 ไปจนถึงช่วงต้นยุค 1900 เมื่อมองจากเนินเขาทางฝั่งตะวันออกของเมืองจะเห็นหลังคากระเบื้องแดงของซากิอุระอัดแน่นกันอยู่ระหว่างเนินเขาและอ่าวที่ช่วยป้องกันศัตรูจากภายนอก เมื่อเดินลงเขาไปไม่ไกลนักก็จะพบกับอุโมงค์สั้นๆ ที่สร้างขึ้นในปี 1933 เพื่อเชื่อมซากิอุระกับพื้นที่อุโดะซึ่งอยู่ติดกัน ทางฝั่งซ้ายที่ทางเข้าอุโมงค์มีรูปสลักหิน และมีศาลเล็กๆ ที่ด้านในมีเศษหินสลักสัทธรรมปุณฑรีกสูตร (คัมภีร์ของพุทธศาสนา) ที่ค้นพบตอนขุดอุโมงค์
ใกล้ๆ ทางเข้าอุโมงค์จะมีคฤหาสน์ชิโอดะซึ่งตระกูลเดียวกับที่ดูแลเหมืองเงินอิวามินั้นเป็นเจ้าของอยู่ รูปสลักนกกระเรียนสีแดงที่สง่างามบนจั่วหลังคาบ้านเป็นสิ่งที่คนรับใช้ประจำบ้านหลังนี้ทำขึ้นในช่วงต้นสมัยไทโช (ค.ศ. 1912-1926) เมื่อลงเนินไปอีกนิดก็จะพบกับร้านค้าที่มีมาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) กำแพงและประตูที่อยู่ด้านนอกสุดทำจากโคลนที่ทาทับกันไว้จนหนา ซึ่งกำแพงโคลนนี้ทำไว้เพื่อป้องกันไฟไหม้
บ้านหลายหลังที่หันหน้าเข้าหาอ่าวจะมีผนังทำจากไม้ไผ่ เพื่อป้องกันด้านทิศเหนือของตัวบ้านจากลมหนาวที่พัดมาจากทะเลในฤดูหนาว ชิวาคุยะที่อยู่ใกล้ๆ คืออาคารที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) โดยในอดีตเป็นโรงเก็บของของพ่อค้าเกลือผู้ร่ำรวย ปัจจุบันเปิดให้บริการเป็นแกลลอรีงานศิลปะและคาเฟ่
ธรรมชาติในพื้นที่ซากิอุระ
แม้เวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษแล้ว แต่ในละแวกนี้รอบๆ ซากิอุระยังแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย เนินเขาที่ปกคลุมด้วยป่ายังคงโอบล้อมทั้งสามด้านของเมืองเอาไว้ เส้นทางเดินเล่นซากิอุระที่เริ่มต้นจากชายทะเลฝั่งตะวันตก ตัดผ่านที่อยู่อาศัยของกวางและหมูป่าเป็นระยะทางยาว 2.5 กม. นั้นเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ทั้งเบย์เบอร์รี่ญี่ปุ่น เกาลัด มะเยาหิน และคาร์มีเลียญี่ปุ่น ฯลฯ จากเส้นทางนี้นักเดินเขาสามารถใช้เส้นทางแยกไปยังแหลมที่เป็นจุดเล่นน้ำทะเลซึ่งห่างไกลจากตัวเมืองได้ จุดสิ้นสุดเส้นทางเดินเล่นจะอยู่บนยอดเนินฝั่งตะวันตกของแหลมที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างกว้างขวางแบบพาโนรามา ภาพหน้าผาสูงตามแนวชายฝั่ง ถ้ำที่เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะ เกาะรูปร่างซับซ้อนที่เกิดจากหินภูเขาไฟที่มองเห็นได้จากจุดนี้น่าประทับใจอย่างยิ่ง และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไดเซ็นโอคิ
เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ก็จะมีนกนางนวลหางดำที่อพยพมายังคาบสมุทรชิมาเนะเกาะอยู่ตามเขื่อนหรือแนวกันคลื่นให้เห็นได้ทั่วไปในอ่าวซากิอุระ เสียงร้องของนกชนิดนี้แยกแยะง่ายเพราะคล้ายเสียงแมว และชื่อเรียกของมันในภาษาญี่ปุ่นคืออุมิเนโกะ (แมวทะเล)
สัตว์ที่มีเสียงร้องแปลกยังมีอยู่อีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือกบคาจิกะที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำยาจิโยะที่ไหลลงสู่อ่าว เสียงที่พวกมันร้องประสานกันในยามกลางคืนของฤดูร้อนว่ากันว่าเหมือนเสียงร้องของกวางตัวผู้ที่ร้องหาคู่ในฤดูใบไม้ร่วง
เว็บไซต์ ความงดงามตราตรึงใจของพื้นที่ละแวกนี้ส่วนใหญ่หาชมได้จากท้องทะเล ทัวร์นำเที่ยว (ล่องเรือ) ที่พาชมถ้ำที่เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะทางตอนเหนือของอ่าวและหน้าผาหินขรุขระมีให้บริการโดยบริษัทนำเที่ยวในท้องถิ่น (แผนที่)
เบอร์โทรศัพท์ : ประวัติศาสตร์ในพื้นที่ซากิอุระ
ซากิอุระมีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่โบราณ บันทึกที่มีการกล่าวถึงซากิอุระเป็นครั้งแรกคือ "อิสึโมะโนะคุนิฟุโดคิ" ซึ่งมีการบันทึกรวบรวมตำนานในท้องถิ่นในปี 733 โดยในบันทึกดังกล่าวซากิอุระถูกเรียกว่า "ซากิฮามะ" นอกจากนี้ศาลเจ้าอินาเสะฮากิยังได้รับการกล่าวถึงตำนานเทพเจ้าใน "นิฮงโชกิ" ที่มีการบันทึกในปี 720 จนถึงช่วงกลางสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) มีเรือสินค้าจากเกียวโตและโอซาก้าซึ่งล่องเรือมาตามทะเลญี่ปุ่นแวะมาที่นี่เป็นประจำ ท่าเรือทำให้ซากิอุระเจริญรุ่งเรือง พรั่งพร้อมไปด้วยบริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายและที่พัก ทั้งยังมีจุดจอดเรือทอดสมอได้อย่างปลอดภัยเพื่อรอให้ทิศทางลมเป็นอย่างที่ต้องการ นอกจากนี้พ่อค้าส่งในท้องถิ่นก็ทำหน้าที่จัดการการขนส่งสินค้าที่มาจากพื้นที่ห่างไกลในประเทศญี่ปุ่น ชิวาคุยะในอดีตเป็นโรงเก็บของ ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ความมั่งคั่งของที่นี่ได้มาจากการขนส่งเกลือมาจากหมู่เกาะชิวาคุในทะเลในเซโตะ
ตั้งแต่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) จนถึงสมัยไทโช (ค.ศ. 1912-1926) ซากิอุระคือเมืองท่าแวะพักที่มีเรือสินค้าจากโอซาก้ามาแวะพักเป็นประจำ ในช่วงปี 1888 ที่เมืองรุ่งเรืองถึงขีดสุดนั้นว่ากันว่าบริษัทเรือหนึ่งบริษัทต้องดูแลเรือมากกว่า 100 ลำในหนึ่งปี
ต่อมาการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของการเข้าสู่ยุคสมัยใหม่และความต้องการทรัพยากรธรรมชาติก็ทำให้เกิดอุตสาหกรรมเหมืองแร่ขึ้นที่นี่ด้วย แต่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 เหมืองทองแดงถูกปิด และมีการสร้างทางรถไฟของประเทศขึ้น ทำให้การขนส่งทางทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว ความรุ่งเรืองทางการค้าของซากิอุระจึงจบลง ปัจจุบันอุตสาหกรรมหลักของที่นี่คือการประมง
ซางิอุระ
ซางิอุระ ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ
769 บาบานิชิ คิสึกิมินามิ ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ (แผนที่)
เบอร์โทรศัพท์ : 0853-25-7491
เวลาทำการ : 9:30-17:00(ปิดวันพุธ)
จากนั้นเราก็กลับมาขี่จักรยานกันต่อ ไปทางชายหาดอินาสะซึ่งอยู่ทางตะวันตกของศาลเจ้าอิสึโมะไทชะ ชายหาดอินาสะคือที่ซึ่งมีการจัดพิธีอัญเชิญเทพเจ้าเป็นประจำทุกปี เราขี่จักรยานผ่านเส้นทางอัญเชิญเทพเจ้า ผ่านบ้านเรือนที่สวยงามในละแวกนั้น ซึ่งมีสวนเล็กๆ และดอกไม้ที่น่ารักให้ได้ชม บนถนนแคบๆ มีป้าย ร้านเล็กๆ และบ้านเรือนตั้งเรียงราย พอขึ้นไปจนสุดเนินแล้วขี่ลงมาตามทางลง ถนนจะเริ่มกว้างขึ้นเผยให้เห็นทัศนียภาพของชายหาดอย่างชัดเจน
บทความที่เกี่ยวข้อง
ที่อีกฟากหนึ่งของถนนตรงข้ามทางลงชายหาด คือร้านกาแฟหรูชื่อ “อิสึโมะอามาสาเกะ 173 (อินาสะ) คอฟฟี่ (Izumo Amazake 173 (inasa) Coffee)”
Camila:ร้านอยู่ใกล้ชายหาดอินาสะมากค่ะ แล้วยังมี 2 ชั้น ในที่สุดก็เจอที่ถ่ายรูปวิวดีๆ แล้วค่ะ!
อิสึโมะอามาสาเกะ 173 (อินาสะ) คอฟฟี่ (Izumo Amazake 173 (inasa) Coffee)
2844-34 คิซึกิคิตะ ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ (แผนที่)
เบอร์โทรศัพท์ : 0853-31-9173
คาเฟ่แห่งนี้จำหน่ายอามาสาเกะเป็นหลัก แต่ในเมนูก็มีเครื่องดื่มอื่นๆ และของว่าง รวมทั้งมีเกลือคามิชิโอะซึ่งผลิตในอิสึโมะจำหน่ายด้วย
Tanja:ฉันเคยดื่มอามาสาเกะมาก่อนแล้วค่ะ แต่ของที่นี่ไม่เหมือนอามาสาเกะอุ่นๆ ที่ดื่มในหน้าหนาว ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมากค่ะ
อามาสาเกะของที่นี่มีการนำไปผสมกับไซรัปผลไม้ แล้วเติมน้ำแข็ง จึงนับเป็นอามาสาเกะ เครื่องดื่มแบบโบราณดั้งเดิมในเวอร์ชันใหม่ที่ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น ถึงจะเรียกว่า “สาเกะ (เหล้า)” แต่ก็เป็นเพียงเครื่องดื่มรสหวานที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินบี ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่นอกจากจะอร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ
ภายในร้านมีบันไดเวียนสีเมทัลลิก เมื่อขึ้นบันไดไปก็จะไปถึงระเบียง ซึ่งมีที่นั่งทั้งแบบเคาน์เตอร์ด้านในและเก้าอี้ม้านั่งบนระเบียงด้านนอกให้เลือก นับว่าเป็นที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบมาก วิวชายหาดอินาสะและเกาะเบ็นเท็นจิมะก็สวยงาม บนเกาะเบ็นเท็นจิมะมีศาลเจ้าเล็กๆ ตั้งอยู่เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่มีชื่อว่าโทโยตะมาฮิโกะโนะมิโคโตะ ความพิเศษของศาลเจ้าแห่งนี้ทำให้วิวที่นี่งดงามที่สุดค่ะ
เพราะเราจำเป็นต้องเอาจักรยานไปคืน จึงไม่มีเวลาพอที่จะไปเดินเล่นบนชายหาดหรืออยู่รอชมพระอาทิตย์ตก แต่เราแนะนำให้อยู่ชมพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดอินาสะด้วย คำกล่าวที่ว่า “อิสึโมะดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอาทิตย์อัสดง” ได้มาก็เพราะทัศนียภาพยามพระอาทิตย์ตกของที่นี่ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ขากลับเราผ่านด้านนอกของคาเฟ่แมวชื่อ “Animal Living” คาเฟ่แมวแห่งนี้ดูแลสัตว์เป็นอย่างดี น้องหมาน้องแมวที่ดูมีความสุขจึงช่วยเยียวยาจิตใจได้ดี คาเฟ่แห่งนี้อยู่ตรงจุดที่ผ่านถนนชินมงออกมาไม่ไกล ตัวอาคารเป็นอาคารผนังปูนขาวที่ดูเรียบๆ ซึ่งมีป้ายสีชมพูวาดรูปตัวการ์ตูน คาเฟ่แห่งนี้ดำเนินงานโดย NPO ชื่อเอนิชิโนะไค ที่นี่มีสุนัขสูงวัย 2 ตัวอาศัยอยู่ แมวก็มีหลายตัว เกือบทุกตัวเป็นแมวที่กำลังหาผู้อุปการะ บนผนังมีโปสเตอร์ของโครงการลดแมวจรจัดอย่างมีมนุษยธรรม “TNR (มาจาก Trap = จับ, Neuter = ผ่าตัดทำหมัน, Return = นำกลับไปที่เดิม) และโปสเตอร์ส่งเสริมโครงการหาบ้านให้น้องเหมียวติดอยู่ ภาพของน้องเหมียวที่ “สำเร็จการศึกษาแล้ว” (หาผู้อุปการะได้แล้ว) ที่จัดแสดงไว้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน จัดเป็นที่พักผ่อนที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักสัตว์ค่ะ
Jill:อพาร์ตเมนต์ที่ฉันอยู่ห้ามเลี้ยงสัตว์ค่ะ เวลาอยากเล่นกับแมวก็จะมาที่นี่เป็นประจำ ฉันมาบ่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ
ที่หมายสุดท้ายของการเดินทางคือบ่อแช่เท้าที่ “จุดพักรถ ไทชะโกะเอ็นฮิโรบะ (Taisha Goen Hiroba)” นอกจากบ่อแช่เท้าแล้วที่นี่ยังมี “อิสึโมะบุซซังคัง” ร้านขายของที่ระลึกที่ใหญ่อย่างน่าทึ่งและร้านโซบะ บ่อแช่เท้าใช้บริการได้ฟรี และยังมีเครื่องจำหน่ายผ้าขนหนูอัตโนมัติในราคา 100 เยนติดตั้งเอาไว้ด้วย เบาะรองนั่งก็มีวางไว้ให้ ช่วยให้พักเท้าได้อย่างสบาย เพราะขี่จักรยานกันมาหลายชั่วโมง ความอุ่นของน้ำร้อนจึงช่วยให้ผ่อนคลายอย่างยิ่งค่ะ
Camila:ถ้าไม่มีบ่อแช่เท้า ฉันคงกลับไปไม่ถึงสถานีแน่ค่ะ ฉันเหนื่อยมากเพราะเดินกับขี่จักรยานมาทั้งวัน การได้พักสักครู่ที่บ่อแช่เท้าช่วยให้ฟื้นแรงกลับมาได้ค่ะ
พวกเรานั่งแช่เท้าผ่อนคลายพลางคุยกันถึงความรู้สึกในวันนี้ เราทั้งสามคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าอยากแนะนำเส้นทางนี้ให้กับครอบครัวและเพื่อนๆ ความประทับใจสำคัญคือการได้รู้ว่าแค่กำลังขาของตัวเองก็พามาทำเรื่องสนุกๆ แบบนี้ได้ค่ะ
Roadside Station Taisha Goen Hiroba
เว็บไซต์ 735-5 ชูริเมน ไทฉะ-โช เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ (แผนที่)
เบอร์โทรศัพท์ : 0853-53-5150
วันอันแสนสนุกจบลงแล้วอย่างรวดเร็ว เราปั่นรถผ่านเส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อกลับไปให้ทันก่อน 6 โมงเย็น ได้ผ่านทุ่งนาแบบชนบทที่สวยงามด้วย เพราะระบบไฟฟ้าของจักรยานช่วยให้เรากลับไปถึงในเวลา 17.59 น.พอดีเป๊ะค่ะ
Tanja:การท่องเที่ยวด้วยจักรยานไม่ยากเลยค่ะ แต่พอเที่ยวเสร็จก็รู้สึกเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะ
เราแวะกินอาหารเย็นระหว่างทางไม่ได้เพราะต้องกลับมาที่จุดเช่าจักรยานให้ทันเวลา แต่รอบสถานีอิสึโมะชิก็มีร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น (อิซากายะ) และร้านอาหารมากมาย เอาจักรยานไปคืนก่อนแล้วค่อยมาดื่มเบียร์ ฯลฯ ให้สบายก็ได้ จะได้ชนแก้วฉลองให้กับการเดินทางตลอดวันที่เหน็ดเหนื่อยมาค่ะ
การช็อปปิ้งและของที่ระลึก
ฉันซื้อขนมปังสำหรับวันถัดมามาจากรูบาร์บ ซื้อสายห้อยสิ่งของที่เขียนคำว่า “อิสึโมะ” เป็นภาษาญี่ปุ่นมาจากศาลเจ้าอิสึโมะไทชะเพื่อติดที่กระเป๋าเป้ค่ะ ฉันชอบดีไซน์คำว่า “อิสึโมะ” แบบนี้มาก มีเสื้อยืดที่มีดีไซน์แบบเดียวกันด้วยค่ะ ยังเสียดายอยู่ว่าน่าจะซื้อสติ๊กเกอร์สำหรับติดกระเป๋าเดินทางด้วย ฉันอยากไปหาอีก ที่อิสึโมะบุซซังคังมีเสื้อยืดที่มีลายกระต่ายกับเสาประตูโทริอิที่เคยเห็นมาก่อนขายอยู่ ก็เลยซื้อมาด้วยค่ะ แล้วก็ซื้อคุกกี้สำหรับเป็นของฝากเพื่อนร่วมงาน เพิ่งรู้ตัวตอนนี้เหมือนกันว่าซื้อไปเยอะแยะเลยค่ะ (Tanja)
ศาลเจ้าอิสึโมะไทชะขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ฉันก็เลยซื้อเครื่องรางเพื่อสุขภาพมาค่ะ ฉันรู้ว่าเครื่องรางมีไว้พกติดตัว แต่อันนี้ฉันเอาไปติดที่ประตูหน้าบ้านเพราะอยากให้ช่วยคุ้มครองบ้านและปกป้องคนในบ้านจากความเจ็บป่วย รวมทั้งยังเป็นที่ระลึกถึงวันดีๆ ด้วย เครื่องรางแบบอื่นก็มีขายค่ะ แต่ตอนนี้แค่อันนี้อันเดียวก็พอ (ก็เสียดายอยู่เหมือนกันค่ะว่าน่าจะซื้อเครื่องรางสำหรับการเรียนมาด้วย) แล้วก็ซื้อเค้กสำหรับเป็นของฝากมาจากอิสึโมะบุซซังคังด้วยค่ะ (Camila)
ฉันไม่ได้ซื้ออะไรเลยเพราะไม่อยากหอบของ แต่ครั้งนี้รู้สึกเสียใจนิดหน่อย เพราะเป็นช่วงที่กำลังจะขึ้นปีงบประมาณใหม่พอดี น่าจะซื้อเครื่องรางเพื่อความสัมพันธ์มาจากศาลเจ้าอิสึโมะไทชะซะหน่อย ที่เนไกบินะมิวเซียม IZUMONO-En มีของตกแต่งน่ารักๆ อยู่เยอะแยะมาก ตอนนี้ฉันยังคิดถึงชุด 12 นักกษัตรกับเครื่องแขวนประดับรูปดอกสึบากิอยู่เลยค่ะ หลังอาหารกลางวันฉันอิ่มจนกินกาแฟช็อกโกแลตไม่ไหว แต่ได้ลองชิมเครื่องดื่มของธันยา ก็รู้สึกอยากไปอีกค่ะ ฉันซื้อของมาฝากเพื่อนร่วมงานด้วย แต่นอกจากนั้นไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาบ้านเลย แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าจะต้องไปที่ไหนถ้าอยากหาของขวัญหรือของสำหรับตัวเองค่ะ (Jill)
คำแนะนำและสรุป
รถจักรยานไฟฟ้าช่วยให้สบายขึ้นบ้าง แต่การขี่จักรยานทั้งวันก็ค่อนข้างหนักต่อร่างกาย แนะนำให้ใส่เสื้อคลุมบางๆ ที่ช่วยกันลมได้ไปด้วย แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิจะทำให้รู้สึกอุ่น อย่าลืมดื่มน้ำด้วย และขอให้เผื่อเวลามาให้พอเพื่อให้มีเวลาพักผ่อนเต็มที่และนำจักรยานไปคืนได้ทัน แนะนำให้ตรวจสอบ “กำหนดการที่คาดว่าซากุระจะบาน” แล้วค่อยวางแผนมาเที่ยว ก็จะช่วยให้ได้ชมซากุระตอนที่บานเต็มที่ค่ะ และควรตรวจดูวันหยุดประจำและเวลาเปิดบริการของร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าต่างๆ ที่อยากไปมาด้วย เรื่องสุดท้ายคือขอให้ขี่จักรยานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นประการแรก อย่าลืมใส่ใจเครื่องหมายจราจรและพาหนะอื่นๆ ให้ดีค่ะ
เรามีคลิปวิดีโอแนะนำการเดินทางด้วยจักรยานด้วยค่ะ คลิกที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อชมการเดินทางไปศาลเจ้าจากอีกมุมมอง อย่าลืมเข้าไปชมกันค่ะ!
-
Camila Iquiene
-
Jill Adams
-
Tanja Severikangas