เที่ยวอิสึโมะด้วยรถยนต์ : ทริป 1 วันในฤดูหนาว
ฤดูหนาวมาเยือนที่อิสึโมะแล้ว อากาศหนาวแล้วแต่ก็ยังมีสถานที่หลายแห่งในอิสึโมะที่เพลิดเพลินกับฤดูหนาวได้เช่นกัน วันนี้เราได้เช่ารถและออกไปเที่ยวรอบอำเภออิสึโมะ
ก่อนอื่นเราจะเช่ารถยนต์ โดยที่ใกล้ๆ กับสถานี Izumo-shi จะมีร้านรถเช่ามากมาย และถ้าคุณมีใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ คุณก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปรอบๆ ภายในอิสึโมะได้อย่างอิสระโดยรถยนต์
ถ้างั้นเรามาออกเดินทางกันเลย ขั้นแรกให้ไปที่ศาลเจ้าสุสะ ศาลเจ้าสุสะตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาทางตอนใต้ของอำเภออิสึโมะ และใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยรถยนต์ ซึ่งในระหว่างทางเราสามารถมองเห็นเทือกเขาในอิสึโมะได้
ศาลเจ้าสุสะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์ "อิสึโมะ คุนิ ฟุโดคิ" ในศตวรรษที่ 7 และในบริเวณใกล้เคียงมีแม่น้ำสุสะไหลผ่าน และศาลเจ้านี้ได้ตั้งอยู่อย่างเงียบๆ ท่ามกลางทิวทัศน์ชนบทที่เงียบสงบนี้
ศาลเจ้าสุสะนี้เป็นศาลเจ้าที่สักการะวิญญาณของวีรบุรุษอย่างซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะ ผู้ซึ่งเอาชนะยามาตะ โนะ โอโรจิ ในตำนานของญี่ปุ่น และศาลเจ้าหลักในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมเดียวกับศาลเจ้าอิสึโมะไทฉะ รวมทั้งรอบๆ ของเขตศาลเจ้าที่ล้อมรอบด้วยแมกไม้เขียวขจีนี้ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศน่าพิศวง และเป็นที่สนใจจากที่สื่อแนะนำว่าเป็นพาวเวอร์สปอต (สถานที่ที่มีพลังของเทพเจ้า) อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ฯลฯ
ที่ด้านหลังของศาลเจ้ามีต้นสนยักษ์ซึ่งมีอายุประมาณ 1,300 ปีตั้งอยู่ราวกับได้ปกป้องพื้นที่นี้ไว้ ถือเป็นต้นไม้ขนาดยักษ์ที่มีเส้นรอบวงลำต้น 6 เมตรและความสูงของต้นมากกว่า 24 เมตร และยังน่าตื่นตาตื่นใจกับลักษณะอาคารที่เต็มไปด้วยความสง่างามเหล่านั้น รวมทั้งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นพาวเวอร์สปอตที่โดดเด่นแม้ในญี่ปุ่นเอง
นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ที่เล่าสืบทอดกันมาเหมือนกับตำนาน โดยคุณสามารถดูข้อมูลในรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
730 สุสะ ตำบลซาดะ อำเภออิสึโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เบอร์โทรศัพท์ : โทรศัพท์ : 0853-84-0605
มียูคาริคัง (Yukari-kan) ที่อยู่ห่างจากศาลเจ้าสุสะแห่งนี้โดยใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที ยูคาริคังเป็นสถานที่แช่น้ำพุร้อนแบบไม่ต้องพักค้างคืน ซึ่งคุณสามารถทานข้าวในร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันนี้ได้ และในวันที่อากาศหนาวเย็นเช่นวันนี้ เราขอแนะนำให้คุณแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นที่นี่กันให้ได้
เรามาถึงยูคาริคังแล้ว หิวมากพอสมควรแต่ก่อนอื่นเราจะลงแช่ออนเซ็นกัน และออนเซ็นของยูคาริคังมี 6 ประเภทไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นกลางแจ้ง บ่อออนเซ็นที่ให้น้ำไหลลงสู่แผ่นหลัง อ่างหัวเจ็ต และซาวน่าอินฟราเรด เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจแบบสบายๆ และในห้องอ่างน้ำก็กว้างขวาง วันนี้ก็ไม่มีแขกคนอื่นๆ เลย ดังนั้นเรา 3 คนจึงสามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นในแบบเหมาส่วนตัวนี้ได้
หลังจากแช่ออนเซ็นกันไปแล้ว เรามุ่งหน้าไปร้านอาหารภายในอาคารเพื่อทานอาหารกลางวัน ซึ่งในยูคาริคังยังวางขายสินค้าของฝากมากมายด้วย คุณจึงไม่ควรพลาดมองหาของฝากที่ชื่นชอบกันให้ได้
ในที่สุดก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เมนูก็มีมากมายหลากหลายจนลังเลว่าจะเลือกเมนูไหนดี แต่ก็เลือกได้เป็นอาหารชุดเนื้อย่างสำหรับทันย่า อาหารหมูทอดทงคัตสึสำหรับคามิลล่า และอาหารชุดไก่ทอดคาราอาเกะสำหรับจิลล์ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอาหารชุดสไตล์ญี่ปุ่นที่มีข้าวพร้อมซุปมิโซะ และดูน่าอร่อยมากด้วย ซึ่งหลังจากผ่อนคลายที่ออนเซ็นกันไปแล้ว เราก็ได้ทานอาหารกลางวันแสนอร่อย
737 ฮาราดะ ตำบลซาดะ อำเภออิสึโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เบอร์โทรศัพท์ : โทรศัพท์ : 0853-84-0800
หากคุณมาทางตอนใต้ของอำเภออิสึโมะ ที่นี่มีสถานที่แนะนำที่ขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ Cowbell ร้านขนมปังในฟาร์มปศุสัตว์ และตรงตามชื่อว่าที่นี่คือร้านขนมปังภายในฟาร์มโคนม และบริหารงานโดยฟาร์มปศุสัตว์นั่นเอง ทั้งยังเป็นอาคารที่สวยงามและสามารถทานภายในร้านได้ด้วย ซึ่งพื้นที่ภายในร้านจะมีเตาเผาสำหรับอบพิซซ่า และถ้าจองไว้ล่วงหน้า คุณก็จะได้ร่วมกิจกรรมลองอบพิซซ่าด้วย
ที่นี่เป็นร้านขนมปังแป้งข้าวเจ้าที่ใช้แป้งข้าวเจ้าของตำบลซาดะในท้องถิ่นนี้ และคุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติตามฤดูกาล เช่น ขนมปังสอดไส้ที่ใช้ผักในท้องถิ่น และขนมปังเดนิชผลไม้ที่ทำจากผลไม้ในท้องถิ่น เราอิ่มกันมากหลังอาหารกลางวัน แต่ก็ซื้อขนมปังเหล่านั้นมาด้วยบางส่วน
Cowbell ร้านขนมปังในฟาร์มปศุสัตว์
เว็บไซต์ 727-1 ทันเบะ ตำบลซาดะ อำเภออิสึโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เบอร์โทรศัพท์ : โทรศัพท์ : 0853-84-1007
หลังซื้อขนมปังเสร็จแล้วเราก็ไปกันที่หุบเขาทาจิคุเอเคียว (Tachikuekyo) หุบเขาทาจิคุเอเคียวเป็นจุดชมวิวที่มีหินรูปร่างแปลกตาปรากฏขึ้นมา ซึ่งเป็นเสาหินรูปร่างแปลกตาที่มีความสูงตั้งแต่ 100-200 เมตรต่อเนื่องกันเป็นระยะทางยาว 1 กิโลเมตร
เส้นทางเดินเล่นถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางตัวอย่างในการสังเกตดูธรรมชาติระหว่างสะพานทั้ง 2 อย่างสะพานฟุโรและสะพานฟุรันซึ่งครอบคลุมหุบเขาทาจิคุเอเคียว และคุณสามารถเดินเล่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามและพืชพรรณในหุบเขาได้
ก่อนอื่นเราได้ข้ามสะพานฟุโร และมุ่งหน้าไปยังฝั่งชายฝั่งตรงข้ามที่เป็นซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดเรโคจิ (Reikoji) และพระอรหันต์ 500 องค์ และเส้นทางเดินเล่นยังตั้งอยู่ระหว่างโขดหินรูปร่างแปลกตาและแม่น้ำโกเบที่ไหลผ่านบริเวณใกล้เคียง จึงแคบมากและแค่เดินก็ตื่นเต้นหวาดเสียวมากๆ และที่ข้างๆ เส้นทางเดินเล่นยังมีดอกเบญจมาศป่าสีขาวรอต้อนรับฉันอยู่ คุณจะสามารถเต็มอิ่มกับเสียงแม่น้ำไหลและอากาศบริสุทธิ์ขณะอาบแสงแดดแสนอ่อนโยนในฤดูหนาวนี้
เมื่อมุ่งหน้าไปสักพัก บันไดหินที่นำไปสู่วัดเรโคจิก็ปรากฏขึ้น ซึ่งวัดเรโคจิที่ตั้งอยู่บนบันไดหินสูงชันนี้ แต่เดิมสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 7 และครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองในฐานะลัทธิชูเก็นโดที่บูชาภูเขาและเรียกว่าวัดฮิโคจิ แต่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดเรโคจิในปัจจุบันหลังศตวรรษที่ 18
วัดที่ตั้งอยู่เงียบๆ ในพื้นที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักแห่งนี้ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศอันโอ่อ่าที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,200 ปี และรายล้อมไปด้วยความเงียบและอากาศที่สดใส
เมื่อเดินลงบันไดหินอีกครั้งแล้วไปตามเส้นทาง ก็พบพระพุทธรูปหินกลุ่มหนึ่งตั้งอยู่ที่พื้นผิวหินซึ่งเรียกกันว่าพระอรหันต์ 500 องค์ และมีพระพุทธรูปหินกว่า 1,000 องค์เมื่อรวมทั้งที่ตากฝนและลมมาหลายปีจนผุพังไปกว่าครึ่งตั้งเรียงรายกันอยู่ และรอบๆ ทั่วบริเวณยังรายล้อมไปด้วยบรรยากาศทางจิตวิญญาณ และเรารู้สึกว่าตนเองได้รับพลังงานพิเศษโดยการหายใจอากาศที่นี่เข้าไปอีกด้วย
ถ้ามุ่งต่อไปตามเส้นทางอีกก็จะมาถึงสะพานฟุรัน เราได้ข้ามสะพานฟุรัน และมุ่งหน้าไปยังฝั่งชายฝั่งตรงข้าม และเส้นทางของชายฝั่งตรงข้ามก็เต็มไปด้วยพืชด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นฤดูหนาว จึงมีพืชไม่กี่ชนิดที่มีดอกไม้เบ่งบาน แต่ดอกบ๊วยที่กลายเป็นสีชมพูก็น่าประทับใจอย่างมาก ที่นี่ไม่ยากเลยที่เราจะจินตนาการว่าตนเองสามารถสนุกกับพืชตามฤดูกาลได้
เมื่อเดินจากสะพานฟุรันไปตามเส้นทางประมาณ 10 นาที แรกสุดเราก็มาถึงสะพานฟุโระจึงถือว่าบรรลุเป้าหมาย เราใช้เวลาเดินเล่นประมาณ 40 นาทีใน 1 รอบและเส้นทางนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับพื้นที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักและน่าอัศจรรย์นี้ได้ เรารู้สึกสงบอย่างมากเพราะที่นี่ห่างไกลจากความเร่งรีบและความคึกคักของเมือง
ในตอนท้ายสุดนี้เราที่รู้สึกสดชื่นก็ได้แวะไปตามข้างทาง ที่นี่เป็นออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถลงแช่ได้พร้อมกับชมวิวของหุบเขาทาจิคุเอเคียวนี้ และใกล้ๆ กับสะพานฟุโระก็มีฮักโคเอ็น (Hakkouen) ที่เป็นเรียวกังซึ่งให้บริการออนเซ็น ฮักโคเอ็นนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามหุบเขาทาจิคุเอเคียว คุณจึงสามารถผูกขาดวิวของหุบเขาทาจิคุเอเคียวอันงดงามไว้คนเดียวจากออนเซ็นกลางแจ้งและบ่อแช่น้ำรวมที่เป็นกระจกกั้นขนาดใหญ่ทั้งด้านนี้ได้
หุบเขาทาจิคุเอเคียวแห่งนี้จะมีการประดับไฟในตอนกลางคืน คุณจึงมองเห็นหุบเขาที่เป็นหินรูปร่างแปลกตาขณะลงแช่ในออนเซ็นได้แม้ในยามค่ำคืน และถ้าคุณมาที่อิสึโมะ เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้เข้าพักในที่พักพร้อมออนเซ็นในหุบเขาทาจิคุเอเคียว ซึ่งหลายคนยังไม่รู้จักนี้
นี่คือช่วงสุดท้ายของทริป 1 วันในฤดูหนาวของเราแล้ว สภาพอากาศหนาวในภูมิภาคอิสึโมะในฤดูหนาวนั้นรุนแรงมาก แต่มีน้ำพุร้อนและอาหารแสนอร่อยมากมายที่ช่วยให้เราสามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นนี้ได้ และถ้าเช่ารถ คุณก็สามารถไปยังสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักในอิสึโมะอย่างในวันนี้ได้แบบสบายๆ ด้วย รวมทั้งเราจะยินดีมากถ้าบทความนี้จะเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับทริปท่องเที่ยวของคุณ
ตำบลโอซึทาจิ อำเภออิสึโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เบอร์โทรศัพท์ : โทรศัพท์ : 0853-45-0102 (ทาจิคุเอวากะ อายุโนะซาโตะ)
5273-8 ตำบลโอซึทาจิ อำเภออิสึโมะ จังหวัดชิมาเนะ
เบอร์โทรศัพท์ : โทรศัพท์ : 0853-45-0121
10.30-17.00 น., 17.30-21.00 น.
คำแนะนำและสรุป
อิสึโมะในฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำและหนาวเย็น ดังนั้นอย่าลืมสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น และเราขอแนะนำให้ทำการจองล่วงหน้าเมื่อต้องการเช่ารถ ค่าเช่าประมาณ 12,000 เยนหากคุณเช่ารถธรรมดาเป็นเวลา 1 วัน แม้วันนี้จะไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่แม้แต่ในอิสึโมะเอง รถก็ยังหนาแน่นตามสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ดังนั้นควรขับช้าๆ อย่างระมัดระวัง และนอกจากยูคาริคังแล้ว ก็ยังมีสถานที่แช่น้ำพุร้อนแบบไม่ต้องพักค้างคืนในอำเภออิสึโมะอีกด้วย รวมทั้งในแต่ละที่จะมีวันหยุดประจำจึงควรตรวจสอบล่วงหน้า
เราขอจบการแนะนำทริปอิสึโมะที่น่าสนใจในแต่ละฤดูกาลเพียงเท่านี้ แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอยู่มากมายที่เราไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ ซึ่งข้อมูลได้มีโพสต์ไว้บนเว็บไซต์, YouTube, Facebook และ Instagram จึงอย่าลืมดูเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงกันให้ได้
Izumo, JAPAN
@AncientJapanIzumo
@ancient_japan_izumo
